HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,617.56 จุด เพิ่มขึ้น 8.69 จุด แนวเดียวกับตลาดภูมิภาคหลังสถานการณ์ไต้หวันไม่ตึงเครียดเท่าไรจากไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่เมื่อดัชนีฯเข้าใกล้ 1,620 จะต้องระวังแรงขายทำกำไร เพราะดัชนีฯปรับขึ้นมาพอควรแล้ว จึงมีโอกาสพักตัว และพรุ่งนี้ (10 ส.ค.) มีประชุมกนง. แนวโน้มภาคบ่ายตลาดมีโอกาสผันผวน แนวรับ 1,602 แนวต้าน 1,620 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 9 ส.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,617.56 จุด เพิ่มขึ้น 8.69 จุด หรือ +0.54% มูลค่าการซื้อขาย 32,615.21 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,619.83 จุด และต่ำสุด 1,606.48 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวก หลังสถานการณ์ไต้หวันไม่ตึงเครียดเท่าไรเห็นได้จากการจราจรทางอากาศเป็นปกติแล้ว แสดงให้เห็นว่าไม่มีความรุนแรงอะไร ทั้งนี้ ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้น DELTA ที่หยิบขึ้นมาเล่นประคองดัชนีฯให้บวกได้ดี ขณะที่หุ้น SCC และหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าเผชิญกับแรงขายหลังจากที่ไม่แน่ใจเรื่องค่า Ft
อย่างไรก็ดี เมื่อดัชนีฯวิ่งเข้าใกล้ระดับ 1,620 จุด จะต้องระวังแรงขายทำกำไร เพราะดัชนีฯก็ปรับขึ้นมาพอควรแล้ว มีโอกาสที่จะพักตัว และพรุ่งนี้ (10 ส.ค.) ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯด้วย อีกทั้งเงินบาทแข็งค่าก็ทำให้หุ้นในกลุ่มส่งออกไม่ดีเท่า เห็นได้จาก KCE และ HANA ที่ไม่ได้ขึ้นตาม DELTA
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดมีโอกาสผันผวน โดยมีแนวรับ 1,602 จุด แนวต้าน 1,620 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA ปิดที่ 530.00 บาท เพิ่มขึ้น 24.00 บาท หรือ +4.74% มูลค่าซื้อขาย 1,474.48 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.69% มูลค่าซื้อขาย 1,421.07 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 149.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,355.93 ล้านบาท
SABUY ปิดที่ 20.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ +3.47% มูลค่าซื้อขาย 1,328.51 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 154.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.32% มูลค่าซื้อขาย 1,205.00 ล้านบาท