HoonSmart.com>>บล.เมย์แบงก์ กำไร Q2/65 จำนวน 91.73 ล้านบาท ลดฮวบ 46% สาเหตุจากค่านายหน้าซื้อขายหุ้นลดลง ตามภาวะตลาดหุ้น

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST แจ้งผลดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุด 30 มิ.ย. 2565 กำไรสุทธิ 91.73 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.16 บาท ลดลง 79.58 ล้านบาท หรือ 46.45% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 171.30 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.30 บาท
งวด 6 เดือน กำไรสุทธิ 373.33 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งกำไรสุทธิ 448.04 ล้านบาท
บริษัท ฯ ชี้แจง Q2 ผลดำเนินงานลดลง 79.58 ล้านบาท หรือลดลง 46.45% เนื่องจาก รายได้ค่านายหน้าลดลง 249.47 ล้านบาท หรือ 38.21% จาก 652.81 ล้านบาท เหลือ 403.34 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจาก
รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ลดลง 252.72 ล้านบาท หรือ 40.94% จาก 617.28 ล้านบาท เหลือ 364.56 ล้านบาท เป็นผลจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ลดลงจาก 99,801.26 ล้านบาท/วัน เหลือ 77,663.48 ล้านบาท/วัน หรือลดล 22.18% และสัดส่วนนักลงทุนบุคคล ซึ่งเป็นส่วนรายได้หลักของบริษัท ลดลงจาก 48.95% เหลือ 39.43% อันเป็นผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของนักลงทุนบุคคล ลดลงจาก 48,853.48 ล้านบาท/วัน เหลือ 30,620.24 ล้านบาท/วัน หรือลดลง 37.32%
รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพิ่มขึ้น 3.25 ล้านบาท จาก 35.53 ล้านบาท เป็น 38.78 ล ้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.15%
2. รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 29.86 ล้านบาท จาก 22.12 ล้านบาท เป็น 51.98 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 134.99% เนื่องจาก ค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 13.25 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาทางการเงินเพิ่มขึ้น 8.03 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมการขายและการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น 3.87 ล้านบาท และ
ค่าธรรมเนียมและบริการอื่น เพิ่มขึ้น 4.71 ล้านบาท
ขณะที่รายได้อื่นลดลง 0.59 ล้านบาท จาก 181.43 ล้านบาท เป็น 180.84 ล้านบาท หรือลดลง 0.33% เนื่องจาก รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืม เพื่อซื้อหลักทรัพย์ เพิ่มขึ้น 16.32 ล้านบาท และรายได้ดอกเบี้ยเงินฝากสถาบันและพันธบัตรรัฐบาล เพิ่มขึ้น 6 ล้านบาท
ขณะที่ กำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงิน ลดลง 19.79 ล้านบาท และรายได ้อื่นลดลง 3.12 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัท ลดลง 121.81 ล้านบาท หรือ 18.97% จาก 642 ล้านบาท เหลือ 520 ล้านบาท เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานลดลง 92.44 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย ลดลง 13.76 ล้านบาท
