โดย…สาธิต บวรสันติสุทธิ์, CFP
หลายครั้ง เรามักจะถามตัวเองอยู่ในใจ จะซื้อแล้วถือยาวดี หรือ ซื้อขายเก็งกำไรดี เพราะมีประสบการณ์มาแล้วทั้ง 2 อย่าง บางทีซื้อแล้วถือยาว ปรากฏว่าตอนหุ้นขึ้นไปเยอะๆ ก็ไม่ได้ขาย สุดท้ายหุ้นก็ตกกลับมาจุดที่เราซื้อ หรือ ต่ำกว่าต้นทุนที่ซื้อไปซะอีก ส่วนที่เก็งกำไรแบบซื้อมาขายไป ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ
อย่างเช่น สัปดาห์ก่อนตอนที่หุ้นขึ้นไปเกือบ 40 จุด เราก็รีบขายล็อคกำไรเลย ปรากฏว่าหุ้นดันขึ้นต่อเนื่องไปอีก นึกถึงคำพูดที่ว่า “ขายหมู” อ่ะ ใช่เลย จะซื้อใหม่ก็ไม่กล้า กลัวติดดอย ส่วนตัวอื่นที่ขาดทุนอยู่ ก็ไม่ได้ขาย ทำนอง “ไม่ขายไม่ขาดทุน” ที่น่าเจ็บใจ คือ ตัวที่ไม่ขาย ราคาก็ดันไม่ขึ้น ทำให้ในพอร์ตมีแต่ตัวแดงเต็มไปหมด ชักสงสัย เราเป็นนักลงทุนแบบไหนกันแน่
มีงานวิจัยมากมายที่พูดถึงประเภทของนักลงทุน แต่ที่มักจะอ้างถึงกันในตำราด้านการเงิน ก็คือ งานวิจัยของ Marilyn MacGruder Barnwall แห่ง MacGruder Agency แบ่งประเภทของนักลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ ออกเป็น 2 ประเภท คือ
๐ นักลงทุนประเภทรอรับผล (Passive Investor) ที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงหรือยอมรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก พวกนี้ไม่เชื่อว่าจะมีใครสามารถลงทุนชนะตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ ทำนองว่าไม่มีใครเก่งเหนือตลาดตลอดเวลานั่นเอง นักลงทุนพวกนี้จึงมักจะลงทุนผ่านในตลาดหรือกองทุนที่อ้างอิงดัชนีตลาด อย่างเช่น SET50 เป็นต้น
๐ นักลงทุนประเภทมุ่งหวังผล (Active Investor) นักลงทุนพวกนี้เชื่อว่า ถ้าลงทุนดีๆ จะสามารถเอาชนะตลาดได้ ดังนั้นนักลงทุนพวกนี้จะมองหาโอกาสในการลงทุนเสมอ กล้าที่จะเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้น พวกนี้จึงมักจัดการลงทุนด้วยตนเอง หรือถ้าจะลงทุนในกองทุนรวม ก็มักจะเป็นพวก active fund คือ กองทุนที่ผู้จัดการกองทุนมีเป้าหมายการลงทุนคือ เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ใช้วัดให้ได้
นอกจากนี้ ยังมีบทวิเคราะห์ของ Bailard, Biehl & Kaiser Five-Way Model (BB&K) ที่แบ่งนักลงทุนออกเป็น 5 ประเภท โดยพิจารณาจากแนวปฏิบัติ ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมของนักลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน โดยประเมินในด้านของการตัดสินใจว่า หุนหันพลันแล่น หรือ รอบคอบ และ หลังจากที่ตัดสินใจลงทุนเสร็จแล้ว โดยประเมินในด้านของความมั่นใจหรือความวิตกกังวลของแต่ละบุคคล ซึ่งแบ่งได้ 5 ประเภท ดังนี้
พวกนักผจญภัย (Adventurer)
ที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ใช้ชีวิตอยู่กับความไม่แน่นอน และตัดสินใจเร็ว จึงมักขาดความรอบคอบ กล้าได้กล้าเสีย ส่วนใหญ่จึงมักลงทุนแบบมุ่งหวังผล อาชีพปัจจุบันของนักลงทุนประเภทนักผจญภัย คือ เจ้าของธุรกิจ
พวกเป็นตัวของตัวเอง (Individualist)
นักลงทุนประเภทมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงเช่นเดียวกับนักผจญภัย แต่จะตัดสินใจอย่างรอบคอบระมัดระวัง โดยพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ไม่ค่อยไว้ใจใคร จึงมักจะลงทุนด้วยตนเอง นักลงทุนประเภทนี้มักจะเป็นพวกที่มีความรู้สูง และรับความเสี่ยงการลงทุนได้สูง จึงมักลงทุนแบบมุ่งหวังผล อาชีพปัจจุบันของนักลงทุนประเภทนนี้ คือ อาจารย์มหาวิทยาลัย หมอ ผู้บริหารระดับสูง
ดาราคนดัง (Celebrity)
ไม่ใช่หมายความว่า ดาราเป็นนักลงทุนกลุ่มนี้นะ แต่เพราะพฤติกรรมของนักลงทุนกลุ่มนี้ คือ มักขี้กังวล ชอบตามกระแส กลัวตกข่าว เชื่อคนง่าย โดยเฉพาะคนที่มีชื่อเสียง นักลงทุนประเภทนี้จึงมักตัดสินใจเร็ว ไม่ค่อยระมัดระวัง เหมือนคนที่ตัดสินใจซื้อสินค้าเพียงเพราะเห็นดาราในโฆษณาใช้อยู่ นักลงทุนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นลูกค้าของบริษัทนายหน้าค้าหลักทรัพย์มากกว่าจะเป็นลูกค้าของผู้จัดการกองทุน อาชีพปัจจุบันของนักลงทุนประเภทนี้ คือ แม่บ้าน
ผู้พิทักษ์ (Guardian)
เป็นนักลงทุนกลุ่มที่มีความระมัดระวังรอบคอบ ค่อนข้างจู้จี้ มีความวิตกกังวลมาก ไม่ค่อยไว้ใจใคร จึงมักจะเป็นพวกที่ศึกษาหาข้อมูลเยอะๆก่อนตัดสินใจลงทุน แต่เมื่อลงทุนเสร็จแล้ว ก็ยังวิตกกังวลอยู่ จึงทำให้เป็นนักลงทุนที่กลัวความเสี่ยง และมักลงทุนแบบรอรับผล อาชีพปัจจุบันของนักลงทุนกลุ่มนี้ คือ ครูโรงเรียน นักบัญชี เป็นต้น
พวกที่อยู่คาบเส้น (Straight Arrow)
ได้แก่ พวกที่ไม่อยู่ในประเภทใดประเภทหนึ่งข้างต้น แต่จะมีลักษณะกลางๆ
จะเป็นนักลงทุนแบบไหน ก็ไม่ผิดและไม่ได้หมายความว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ เพียงแต่เพื่อให้เรารู้จักตัวเองให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนเท่านั้นครับ