HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 7.39 จุด ตอบรับบรรยากาศตลาดต่างประเทศดี หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด และอาจไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยเหมือนก่อนหน้านี้ หลัง GDP ไตรมาส 2/65 สหรัฐติดลบสองไตรมาสซ้อน เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งบอนด์ยีลด์-เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนตัวลง ประกอบกับราคาน้ำมันยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,570 ถัดไป 1,560-1,563 แนวต้าน 1,585-1,590 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 1 ส.ค.2565 ณ เวลา 9.58 น. อยู่ที่ระดับ 1,583.80 จุด เพิ่มขึ้น 7.39 จุด หรือ +0.47% มูลค่าซื้อขาย 4,078.53 ล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้น รับ Sentiment จากบรรยากาศตลาดต่างประเทศดี จากที่ดาวโจนส์ได้ปรับขึ้นมา 3 วันติดต่อกัน จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯดีต่อเนื่อง และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ตามคาด หลัง GDP งวดไตรมาส 2/65 ติดลบ ซึ่งเป็นการติดลบสองไตรมาสติดต่อกัน จึงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้เฟดอาจไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหมือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นบวกต่อสินทรัพยเสี่ยง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้อ่อนตัวลงด้วย
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังอยู่ในทิศทางที่ปรับขึ้นต่อได้ ซึ่งขณะนี้ก็ขึ้นมาใกล้ระดับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลแล้ว อีกทั้งผลประกอบการของกลุ่มธนาคาร และกลุ่ม Real Sector ที่ออกมาบางบริษัทฯก็ออกมาดี น่าจะช่วยหนุนตลาดได้ แต่ยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป และติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือนก.ค.ของทั่วโลกที่จะทยอยออกมา, การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ(BoE) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 ส.ค., การประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 3 ส.ค. และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯจะออกมาในวันที่ 5 ส.ค. รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อของไทยก็จะออกมาในวันศุกร์นี้ด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,570 ถัดไป 1,560-1,563 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585-1,590 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
CPALL อยู่ที่ 59.25 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -3.27% มูลค่าซื้อขาย 487.96 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 160.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -1.54% มูลค่าซื้อขาย 354.34 ล้านบาท
DELTA อยู่ที่ 494.00 บาท เพิ่มขึ้น 20.00 บาท หรือ +4.22% มูลค่าซื้อขาย 228.11 ล้านบาท
SCC อยู่ที่ 369.00 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ -1.07% มูลค่าซื้อขาย 204.33 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 147.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.68% มูลค่าซื้อขาย 199.52 ล้านบาท