“โออาร์” จัดงานใหญ่ จับคู่พันธมิตรธุรกิจ 22-24 ก.ค.นี้ มั่นใจคนเข้าชมงาน1หมื่นคน

HoonSmart.com>>”ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก” สร้างโอกาสเติบโตร่วมกันกับธุรกิจทุกขนาดและสตาร์ทอัพ เชิญชวนผู้สนใจมาหาพันธมิตร สร้างเครือข่ายธุรกิจ ในงานเสวนา-โชว์เคสธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี “Inclusive Growth Days empowered by OR” ระดม 50 ผู้ทรงคุณวุฒิ นักธุรกิจชั้นนำ ร่วมเจาะลึกโมเดลธุรกิจแห่งอนาคต  22 – 24 ก.ค. 65 เผยผลสำเร็จของ OR คาดปี 73 จะมีอีบิทด้า 2 แสนล้านบาท 50% มาจากการร่วมลงทุน

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีกหรือ โออาร์  (OR)  เปิดเผยว่า โออาร์จะจัดงาน “Inclusive Growth Days empowered by OR”  ระหว่างวันที่ 22 – 24 ก.ค. 2565 ที่บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 22  มีการเสวนาและโชว์เคส เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะขับเคลื่อนโอกาสและสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินธุรกิจสู่อนาคต ผู้ประกอบการธุรกิจทุกรูปแบบ ทุกขนาด ทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ รวมถึงสตาร์ทอัพ จะได้รับประโยชน์โดยตรงเมื่อมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมถึงมองหาพันธมิตรและช่องทางธุรกิจ ตลอดจนสร้างความร่วมมือซึ่งกันและกันระหว่างธุรกิจต่าง ๆ  คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานมากกว่า 10,000 คน และเกิดแมชชิ่งธุรกิจจำนวนมาก

การจัดงานครั้งนี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ใหม่ของโออาร์ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” ด้วยความเชื่อว่า ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของโลก องค์กรธุรกิจต้องปรับตัวและพลิกโฉม นำโมเดลทางธุรกิจและนวัตกรรมใหม่มาใช้ และประสานความร่วมมือกัน เพื่อเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมที่จะส่งเสริมผู้คนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างสรรค์ชุมชนที่น่าอยู่ และรักษาสิ่งแวดล้อมให้ยังคงอุดมสมบูรณ์สำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต

ภายในงานมีการระดม 50 ผู้ทรงคุณวุฒิ  อาทิ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สัมภาษณ์พิเศษ “คมสันต์ ลี “ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจแฟลช กว่าจะเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของเมืองไทย “กระทิง พูนผล” ผู้ก่อตั้งกองทุน 500 TukTuks และผู้บริหารกองทุน ORZON Ventures “Impact Innovation สตาร์ตอัพยุคต่อไป สร้างตลาดใหม่โดยแก้ปัญหาสังคม และสิ่งแวดล้อม”  มีการแนะนำธุรกิจ โดย 11 สตาร์ทอัพและธุรกิจร่วมลงทุน (VC)

นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมจากพันธมิตรของ OR ทั้งตัวแทนจำหน่าย ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ และแบรนด์ต่าง ๆ รวมกว่า 50 บูธ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีด้านยานยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่ ผลิตภัณฑ์และสินค้าอาหารจากธุรกิจในเครือและพันธมิตรของ OR และ Café Amazon ผลิตภัณฑ์และอาหารจากโครงการไทยเด็ด และเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มหลากหลายที่จำลองบรรยากาศ Green Oasis ขึ้นภายในงาน รวมถึงเมนูพิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะ Café Amazon ในต่างประเทศเท่านั้น พร้อมมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังมากมาย

“คุณค่าและสาระประโยชน์จากงานครั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าชมงาน ทั้งนักธุรกิจ นักลงทุน พนักงาน ตลอดจนประชาชนทั่วไปได้เห็นถึงโมเดลทางธุรกิจแห่งอนาคต ที่จะต้องสานพลังและประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยตระหนักดีว่า การดำเนินธุรกิจแบบเดิมที่มุ่งเน้นเพียงการแสวงหาผลกำไร ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาร่วมสร้างโอกาสให้ทุกคนในสังคมเติบโตร่วมกันแบบ Inclusive Growth  เราขอปวารณาในการสร้างโอกาส ไม่ได้ปิดกั้นว่าจะต้องผูกคู่กับโออาร์เท่านั้น หากทุกบริษัทคิดว่าฉันโตด้วยฉันเอง เพราะมีเงินเยอะ จะทำให้คนอพยพไป งานนี้เปิดโอกาสให้กับคนไทยทุกคน ทั้งตัวเล็ก คนกลาง และเกิดใหม่ เราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของการทำธุรกิจ ไม่ทิ้งคนไว้ข้างหลัง เพื่อประโยชน์ของประเทศ “นางสาวจิราพรกล่าว

สำหรับโออาร์ มีอีโคซิสเต็มพร้อมการเติบโต และการจับคู่ร่วมลงทุน มีแพลตฟอร์ม มีการเปิดพื้นที่สำนักงาน ในการแมชชิ่ง ยังมีการติดต่อผ่าน FB และอีเมล นอกจากนี้ยังได้รับอนุมัติจากบอร์ดในการทำซุปเปอร์แอฟ คาดจะแล้วเสร็จในเดือนพ.ย.นี้ ที่ตอบโจทย์ชีวิตคน 24 ชั่วโมง สำหรับคนที่ต้องการสินค้าและบริการ รวมถึงมีสาขา 2,080 แห่ง มีคนเข้าเฉลี่ย 2.5-3 ล้านคน ถ้าเอสเอ็มอีสามารถพัฒนาสินค้า  และโอทอปที่มีขบวนการผลิตผ่านอย. และผลิตเพื่อการพาณิชย์ได้ จะเกิดความคล่องตัวทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย พร้อมสามารถพาไปขายยังต่างประเทศได้

โออาร์ยังเป็น leader EV Brand เรื่องรถ สถานีชาร์จ และการซ่อม มีจุดแข็งเรื่องจุดชาร์จ ติดเครื่องชาร์จแล้วในสถานีบริการน้ำมัน 100 สาขา ถึงสิ้นปีจะมีจำนวน 150 แห่ง นอกปั๊มอีก 15 แห่ง เช่น ที่มหาวิทยาลัย โรงแรม ห้างสรรสินค้า คาดว่าจะติดครบ 450 แห่งทั่วประเทศไทย สำหรับการเดินทางจากกรุงเทพ ทั้งแบบชาร์จเร็ว 20-25 นาที  และ 1 ชั่วโมง ที่ผ่านมาให้ชาร์จฟรี แต่ตั้งแต่เดือนส.ค.นี้ จะเริ่มเก็บค่าชาร์จ สร้างรายได้

นางสาวจิราพรกล่าวถึงความสำเร็จของการร่วมลงทุน อาทิ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาลงทุนใน “โอ้กะจู๋” สามารถขยายสาขาในกรุงเทพฯรวดเร็ว จากเดิมมี 8 สาขา คาดสิ้นปีจะเปิด 80 สาขา แสดงว่ามีมาร์จิ้นดี จนสามารถขยายสาขาได้  ซึ่งการลงทุนในบริษัทต่างๆ  โออาร์ตั้งเป้าในปี 2573 จะมีอีบิทด้าถึง 2 แสนล้านบาท โดยประมาณ 50% มาจากการร่วมลงทุน