HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ลบ 164 จุด นักลงทุนรอการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่และเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 70 เซนต์ ส่วน Brent เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบ จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 ปิดที่ 31,173.84 จุด ลดลง 164.31 จุด หรือ 0.52% นักลงทุนรอการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิถุนายนเพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจ
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,854.43 จุด ลดลง 44.95 จุด, -1.15%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,372.60 จุด ลดลง 262.71 จุด, -2.26%
การรายงานผลประกอบการจะมีขึ้นในวันอังคารนี้ โดยเริ่มจาก PepsiCo, เดลต้าแอร์ไลน์ในวันพุธ ตามมาด้วยธนาคารใหญ่ ทั้งเจพีมอร์แกน เชส, มอร์แกน สแตนเล่ย์ และซิตี้กรุ๊ปในช่วงที่เหลือของสัดาห์ ซึ่งครั้งนี้นักลงทุนติดตามการให้ความเห็นของผู้บริหารและการคาดการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนข้อมูลเงินเฟ้อกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ
แจ๊ค แอบลิน ผู้ร่วมก่อตั้ง Cresset Capital คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะลดคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานเพราะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจชะลอตัวและการดำเนินนโยบายเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
จากข้อมูล FactSet มีการลดคาการณ์กำไรต่อหุ้นในไตรมาสสองของบริษัทในดัชนี S&P 500 ลง 1.1% และแม้กำไรยังเติบโต 4.1% จากระยะเดียวกันของปีก่อนแต่ก็ต่ำสุดนับตั้งแต่สิ้นปี 2020
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลงมาก โดยหุ้นทวิตเตอร์ลดลง 11.3% หลังอีลอน ทัสก์ยกเลิกดีลการซื้อกิจการมูลค่า 44 พันล้านดอลลาร์
นักลงทุนยังรอข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ ซึ่งผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของบลูมเบิร์กคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 8.8% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 1981
แมทธิว ลุซเซ็ตติ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ดอยช์แบงก์กล่าวว่า คาดว่าเงินเฟ้อจะสูงอีกครั้ง และสำหรับตลาดแล้วเป็นความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนต่อภาวะถดถอย และคาดว่าสัปดาห์นี้ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อสูงจะกลับมาอีก
หุ้นที่เกี่ยวกับการใช้จายของผู้บริโภคลดลง โดยหุ้นแคทเธฮพิลลาร์และหุ้นวอลท์ดิสนีย์ต่างลดลงกว่า 2%
หุ้นกลุ่มคาสิโนลดลง หลังจากมาเก๊าสั่งปิดธุรกิจ 1 สัปดาห์ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยหุ้นลาสเวกัส แซนด์ส ลดลง 6.2% หุ้นวินน์ รีสอร์ทส์ ลดลง 6.5%
อดัม ไครซาฟุลลิ จาก Vital Knowledge กล่าวว่า การระบาดของโควิดไม่ใช่ประเด็นเฉพาะของจีน เพราะทั่วโลกผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แม้ความเสี่ยงที่จะล็อกดาวน์ในสหรัฐและสหภาพยุโรปยังต่ำมาก
นอกจากนี้ความกังวลเกี่ยวกับการระบาดโควิดในจีนมีผลให้ราคาน้ำมัน WTI ลดลง1 ดอลลาร์หรือ 1% มาที่103.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์ ราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลง 0.3% มาที่ 106.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 2.7% นักลงทุนรอการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิถุนายนของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ยังวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานในยุโรป และการแพร่ระบาดครั้งใหม่ของโรคโควิด-19 ในจีน
หุ้นUniper ธุรกิจพลังงานในเยอรมนีดิ่งลง 15% หลังเยอมนีขัดแย้งกับฟินแลนด์เรื่องค่าใช้จ่ายในการอุ้มผู้นำเข้าก๊าซ ซึ่งบริษัทขอให้รัฐบาลเยอรมนีช่วยเหลือ แต่ Fortum ผู้ถือหุ้นรายใหญ่จากฟินแลนด์ปฏิเสธคำขอบริษัทที่ให้ช่วยมากขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 415.02 จุด ลดลง 2.10 จุด, -0.50%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,196.59 จุด เพิ่มขึ้น 0.35 จุด, +0.001%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,996.30 จุด ลดลง 36.83 จุด, -0.61%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,832.44 จุด ลดลง 182.79 จุด, -1.40%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 104.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 107.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล