หุ้นปิดบวก 0.49 จุด ผันผวนหลังไร้ปัจจัยใหม่ ต่างชาติซื้อ 2.2 พันลบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดบวก 0.49 จุด ผันผวนหลังไร้ปัจจัยใหม่-กังวลเศรษฐกิจจะถดถอย-ในประเทศเผชิญโควิดระบาดระลอกใหม่ ตลาดรับแรงกดดันจากกลุ่มพลังงงานหลังราคาน้ำมันร่วงแรง ขณะที่หุ้นรับผลดีจากราคาพลังงานลดลงได้ฟื้นตัวขึ้น นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,285.53 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 903.79 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดปรับฐาน โดยมีแนวรับ 1,520 แนวต้าน 1,545 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 6 ก.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,541.79 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด หรือ +0.03% มูลค่าซื้อขาย 72,117.55 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,546.84 จุด ต่ำสุด 1,530.43 จุด

นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,285.53 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 516.40 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 903.79 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 865.34 ล้านบาท

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ผันผวนจากบรรยกาศการลงทุนที่ไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา รวมถึงมีความกังวลโอกาสที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และในประเทศก็ยังเผชิญกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ตลาดได้รับแรงกดดันจาหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลงตามราคาน้ำมันที่ร่วงแรง ขณะที่หุ้นที่ฟื้นตัวเป็นหุ้นที่ได้รับผลดีจากราคาพลังงานลดลง ซึ่งก็เป็นหุ้น Defensive อย่างหุ้นในกลุ่มสื่อสาร, กลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มโรงพยาบาล

ทั้งนี้ การฟื้นตัวของตลาดฯยังมีความเปราะบาง จากผลประกอบการงวดไตรมาส 2/65 ของบริษัทจดทะเบียน จะมีบางกลุ่มออกมาแย่ และบางกลุ่มออกมาดี ทำให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุน ซึ่ง Downside รอบนี้มองไว้ที่ 1,480-1,520 จุด ช่วงสั้นหุ้นไทยยังเผชิญกับการปรับพอร์ตของนักลงทุน จากที่ประเมินหุ้นไทยแข็งแกร่งกว่าหุ้นโลก

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลงราว 1-2% ขณะที่ตลาดในยุโรปบวกราว 1% พร้อมให้ติดตามการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ทางสหรัฐฯจะยกเลิกหรือไม่ อย่างไร และติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะออกมาในวันศุกร์นี้ ประกอบกับติดตามเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันที่ 13 ก.ค.นี้

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 7 ก.ค.2565 ตลาดฯมีโอกาสปรับฐาน โดยมีแนวรับ 1,520 จุด แนวต้าน 1,545 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP ปิดที่ 155.50 บาท ลดลง 7.50 บาท หรือ -4.60% มูลค่าซื้อขาย 4,764.55 ล้านบาท
JAS ปิดที่ 2.64 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ -13.16% มูลค่าซื้อขาย 2,800.20 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ +2.91% มูลค่าซื้อขาย 2,307.77 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 12.20 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ -2.40% มูลค่าซื้อขาย 2,228.35 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 147.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนปลง มูลค่าซื้อขาย 2,070.73 ล้านบาท