ซาบีน่าเนื้อหอมมากขึ้น หลัง “วิโรจน์ ธนาลงกรณ์” ตัดขายหุ้น 28.78% ให้ “กองทุนเทมเพิลตัน และแคปปิตอล” เพิ่มสภาพคล่องหุ้นเป็น 48.14% แก้จุดอ่อนฟรีโฟลทต่ำ ครอบครัวกอดหุ้นใหญ่ 51.86% เผยจุดแข็งอัตรากำไรสุทธิก้าวกระโดดจาก 3% เป็น 11.5% ด้านราคาหุ้นร่วงแรง 16%
นายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทซาบีน่า (SABINA) ได้เสนอขายหุ้นจำนวน 100 ล้านหุ้น หรือ 28.78% ของทุนชำระแล้ว ในราคา 25 บาทต่อหุ้น ให้กับกองทุนระดับโลก เช่น กองทุนเทมเพิลตัน และแคปปิตอลกรุ๊ป เป็นต้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขาย(ฟรีโฟลท) จาก 19.4% เป็น 48.14% รวมถึงเพิ่มจำนวนนักลงทุนสถาบันที่มีคุณภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ราคาหุ้น SABINA มีเสถียรภาพในการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ กลุ่มนายวิโรจน์และครอบครัวจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ รวมท้้งสิ้น 51.86% และนายวิโรจน์จะยังคงเป็นประธานกรรมการบริษัทฯ เป็นผู้ร่วมกำหนดทิศทางการดำเนินงาน ร่วมกับกรรมการท่านอื่นๆ เหมือนเดิม
นายวิโรจน์ กล่าวถึงเหตุผลในการขายหุ้นครั้งนี้ว่า ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ได้มีการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน (โรดโชว์) ในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศแสดงความสนใจที่จะลงทุนในหุ้น SABINA เป็นจำนวนมาก เนื่องจากชื่นชมนโยบายการบริหารงานที่มีความคล่องตัว สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่มีความผันผวน รวมถึงความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถสร้างการเติบโตทั้งรายได้และกำไรในระดับที่สูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนดังกล่าวมีข้อจำกัดในการลงทุนในหุ้น SABINA เนื่องจากสภาพคล่องต่ำและหุ้นมีความผันผวนค่อนข้างมาก จึงสอบถามมาทั้งทางบริษัทฯ และทางตนเองเกี่ยวกับแนวทางที่จะปรับปรุงเรื่องดังกล่าว
“ผมไม่ได้มีความจำเป็นและไม่ได้อยากจะขายหุ้น แต่นักลงทุนสถาบันหลายรายสนใจ ที่ผ่านมาเราไม่มีฐานนักลงทุนสถาบันเลย การที่ผมตัดสินใจขายหุ้นในครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อราคาหุ้น และผู้ถือหุ้นทุกคนในระยะยาว การมีนักลงทุนสถาบันที่มีคุณภาพในสัดส่วนที่ใหญ่ขึ้นมาก น่าจะส่งผลดีในเรื่องของสภาพคล่องและจะช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้น ” นายวิโรจน์ กล่าวเสริม
ส่วนการเสนอขายหุ้นให้แก่นักลงทุนในวงจำกัด(พีพี)ครั้งนี้ ใช้วิธีการสำรวจความต้องการซื้อและประมูลราคากับนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศแบบข้ามคืน โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้น ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างสูงจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นาย บุญชัย ปัณฑุรอัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซาบีน่า กล่าวว่า นักลงทุนสถาบันทั้งไทยและต่างประเทศให้ความสนใจหุ้น SABINA มานานแล้ว เนื่องจากเห็นผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นทุกปี ทั้งจากยอดขายที่ดีขึ้น และการเพิ่มประสิทธิภาพในด้านต่างๆ เช่นคุณภาพของพนักงาน จากที่เคยใช้คน 40 คนต่อ 1 ไลน์การผลิต ขณะนี้ลดเหลือ 15 คน รวมถึงส่วนสูญเสียของสินค้าก็ดีขึ้น ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากระดับ 3% เป็น 5% เป็น 9% และเป็น 11.5%ของครึ่งแรกในปี2561 ขณะเดียวกันการขยายตลาดไปประเทศเพื่อนบ้าน และตลาดในประเทศก็ดีขึ้น ทำให้ผลประกอบการสามารถเติบโตได้ปีละไม่ต่ำกว่า 10%
ด้านราคาหุ้น SABINA ปิดที่ 28.50 บาท ลดลง 5.75 บาท หรือ-16.79% มูลค่าการซื้อขาย 3,036 ล้านบาท ระหว่างวันราคาลงไปลึกสุดที่ 26.25 บาท หลังผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้น 28.78% ในราคาต่ำเพียง 25 บาท ทั้งนี้ การขายหุ้นโดยให้ส่วนลดแก่นักลงทุนสถาบัน เป็นเรื่องปกติ คาดว่าราคาหุ้นจะค่อยๆฟื้นตัวกลับมา หลังจากซึมซับข่าวขายหุ้นราคาถูกและผลการดำเนินงานดีขึ้น