HoonSmart.com>>ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,631.77 จุด เพิ่มขึ้น 6.59 จุด ดูดีกว่าตลาดภูมิภาค คลายความกังวลหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แต่ยังมีปัจจัยอื่นรบกวนอยู่ทำให้ตลาดผันผวน แนวโน้มภาคบ่ายน่าจะยืนบวกได้ โดยมีแนวรับ 1,620-1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635-1,640 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 26 พ.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,631.77 จุด เพิ่มขึ้น 6.59 จุด หรือ +0.41% มูลค่าการซื้อขาย 32,165.31 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,635.56 จุด และต่ำสุด 1,629.31 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดในแถบเอเชียเหนือจะติดลบกัน ซึ่งยังผันผวนตามดาวโจนส์อยู่ ส่วนตลาดในอาเซียนจะบวกกัน หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย. และก.ค. ความกังวลที่เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็เริ่มหมดไป อีกทั้งหลังปรับขึ้นดอกเบี้ยไป 3 เดือน (พ.ค.-ก.ค.) แล้ว เฟดจะประเมินอีกครั้งว่าจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือจะกลับไปขึ้นแค่ 0.25% โดยพิจารณาจากเงินเฟ้อ ซึ่งก็เชื่อว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯน่าจะชะลอได้หลังขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งแล้ว จากนี้ไปความกังวลเฟดจะค่อย ๆ ลดลง
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังมีปัจจัยอื่นกดดันอยู่ ทั้งสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน ที่ยืดเยื้อ และราคาน้ำมันแพง ซึ่งต่างก็เป็นปัจจัยรบกวนอยู่ ทำให้การลงทุนในตลาดยังคงผันผวนอยู่ พร้อมให้ติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย.ที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค.)
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายน่าจะยืนในแดนบวกได้ โดยมีแนวรับ 1,620-1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635-1,640 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP ปิดที่ 159.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ +2.25% มูลค่าซื้อขาย 1,321.03 ล้านบาท
JMT ปิดที่ 78.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +3.31% มูลค่าซื้อขาย 1,044.67 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 26.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -1.85% มูลค่าซื้อขาย 847.37 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.36% มูลค่าซื้อขาย 842.83 ล้านบาท
CPF ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.98% มูลค่าซื้อขาย 795.44 ล้านบาท