HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวโน้มดัชนีขึ้นได้จำกัด หลังฟื้นตัวขึ้นมากกว่า 50 จุด ด้านตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ผันผวนหลัง Nasdaq Futures เช้านี้ -1.30% วางแนวรับดัชนี 1,620 – 1,625 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640-1,645 จุด แนะทยอยซื้อช่วงดัชนีอ่อนตัว ชี้เป้า CPALL, CPN, OR, MINT, CENTEL, กลุ่ม Defensive แนะ ADVANC, GULF ส่วนหุ้นเด่นรายวัน GLOCON , M
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมิน Upside ดัชนี SET เริ่มจำกัดหลังฟื้นตัวจากจุดต่ำกว่า 50 จุด ขณะที่วอลุ่มชะลอตัว วางแนวรับดัชนีที่ 1,620 – 1,625 แนวต้าน 1,640 – 1,645 แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว CPALL, CPN, OR / MINT, CENTEL/ และกลุ่ม Defensive เช่น ADVANC, GULF
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ฟื้นตัวหลังลดลง 7 สัปดาห์ จากความกังวลเงินเฟ้อสูง ,เฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยและเริ่มลดงบดุลใน มิ.ย. DJIA ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร+3.2% ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และกลุ่มเทคโนโลยีเริ่มฟื้นตัว กอปรประธานาธิบดีไบเดนเตรียมยกเลิกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพื่อช่วยลดปัญหาเงินเฟ้อ
ปัจจัยสำคัญวันนี้ติดตาม PMI ภาคผลิต พ.ค.ของแต่ละภูมิภาคคาดจะชะลอตัว, ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐ เม.ย. คาด 7.5 แสน ยูนิต และถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล
ทางฝั่งเอเชียเช้านี้คาดผันผวนตาม Nasdaq Futures เช้านี้ -1.30% หลัง Snap -30.9% จากคาดแนวโน้มรายได้ &กำไรใน Qนี้จะชะลอตัว
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ GLOCON (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Consensus N.A. บาท) งวด 1Q65 รายงานกำไรสุทธิ 17 ล้านบาท +394%YoY เนื่องจากปิดกิจการร้านอาหารทั้ง A&W และ Kitchen Plus หยุดการรับรู้ผลขาดทุน ขณะที่รายได้รวมเติบโต +50%YoY อยู่ที่ 616 ล้านบาท ตามการฟื้นตัวของการบริโภคหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย
แนวโน้ม 2Q65 คาดฟื้นตัวขึ้นต่อ หนุนจากธุรกิจอาหารแปรรูป การส่งออกผลไม้อบแห้ง และบรรจุภัณฑ์ ผู้บริการมองรายได้ทั้งปี 65 ที่ 3 พันล้านบาท จากการรับรู้รายได้ลูกชิ้นทิพย์เต็มไตรมาสตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป ประกอบกับการผลิตที่จะดีขึ้นเพราะย้ายสายการผลิตผลิตเสร็จ
หุ้น M (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 62.50 บาท) กำไรสุทธิ 1Q65 อยู่ที่ 271 ลบ. (+205% YoY, -32.1% QoQ) ฟื้นตัวได้ดีโดยเฉพาะในภาพ YoY สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ดีรับผลบวกจากสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ที่มีทิศทางดีขึ้นในประเทศ ส่งผลให้มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุม
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคต่างๆของภาครัฐฯ ด้านภาพการดำเนินงานในปี65 ยังมีโอกาสที่จะฟื้นตัวจากการกลับมานั่งทานอาหารในร้านมากขึ้นและแผนการเปิดสาขาใหม่ราว 26 สาขา ทั้งนี้ตลาดในปี65 และ66 EPS จะสามารถฟื้นตัวได้โดดเด่นจากปี64 ที่ 0.14 บ./หุ้น มาอยู่ที่ระดับ 1.85 บ./หุ้น และ 2.57 บ./หุ้น ตามลำดับ