HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดพุ่ง 12.33 จุด แกร่งกว่าตลาดต่างประเทศ ดัชนีฯสามารถยืนเหนือ 1,630 ถือเป็นสัญญาณดีในการไปต่อ แม้ยังไร้ประเด็นใหม่หนุน แต่การเปิดประเทศ-เงินเฟ้อสูงกระทบไทยน้อยยังช่วยหนุน นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,093.72 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,360.26 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้แกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,620 แนวต้าน 1,643 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 23 พ.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,635.28 จุด เพิ่มขึ้น 12.33 จุด หรือ +0.76% มูลค่าซื้อขาย 58,704.94 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,635.35 จุด ต่ำสุด 1,623.60 จุด
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,093.72 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 546.13 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,360.26 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 187.32 ล้านบาท
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ฟื้นตัวได้แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่เริ่มลดช่วงบวกลง โดยดัชนีฯสามารถยืนเหนือ 1,630 จุดได้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีสามารถไปต่อได้ แม้ว่าจะยังไม่มีประเด็นใหม่เข้ามา แต่การเปิดประเทศทำให้ช่วยหนุนตลาดได้ และไทยยังรับผลกระทบจากเงินเฟ้อสูงน้อยกว่าประเทศอื่น
อย่างไรก็ดี ตลาดคงจะปรับขึ้นได้จำกัด เนื่องจากมีหลายปัจจัยยังต้องคอยติดตาม ทั้งเรื่องที่เริ่มมีการพูดกันว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย, ประธานาธิบดีสหรัฐอาจจะยกเลิกการเรียกเก็บภาษีสินค้าบางรายการกับจีน และประเด็นไต้หวันหากทางจีนมีการรุกราน ทางสหรัฐฯก็จะเข้าช่วยเหลือ หลายปัจจัยรบกวนทำให้ดัชนีฯยังไปไหนไม่ไกล นอกจากนี้ให้ติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯที่ช่วงปลายสัปดาห์นี้
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 24 พ.ค.2565 ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,620 จุด แนวต้าน 1,643 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTT ปิดที่ 37.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ +2.04% มูลค่าซื้อขาย 2,322.94 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 145.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.69% มูลค่าซื้อขาย 2,303.63 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 27.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 2,151.00 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.72% มูลค่าซื้อขาย 2,058.12 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 115.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ +3.14% มูลค่าซื้อขาย 1,908.75 ล้านบาท