HoonSmart.com>>หุ้น FTI ปิดเทรดวันแรกแจกกำไร 53.60% สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ผู้บริหารสร้างธุรกิจ ขยายการลงทุนไปประเทศเพื่อนบ้าน หวังเป็น Growth Stock และ Dividend Stock นักวิเคราะห์คาดผลดำเนินงานปี 2565 ฟื้นตัวจากปีก่อน หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย กระแสใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภค
หุ้นบริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (FTI) ถือฤกษ์เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 19 พ.ค.2565 ปิดเทรดวันแรกที่ 3.84 บาท เพิ่มขึ้น 1.34 บาท หรือ +53.60% จากราคาขาย IPO ที่ 2.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,736.23 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 4.00 บาท ขึ้นสูงสุด 4.50 บาท และต่ำสุด 3.80 บาท ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลง ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ 1,605.98 จุด ลดลง 14.35 จุดหรือ -0.89%
ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (FTI) เปิดเผยว่า ราคาหุ้น FTI เทรดวันแรกเหนือราคาจองซื้อที่ 2.50 บาท สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯในฐานะที่เป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำอย่างครบวงจรทั้งในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ ทั้งหมดจำนวน 23 แบรนด์ ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 25-30%
ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพด้านฐานเงินทุนที่สูงขึ้น และยังช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต พร้อมๆ กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการให้กับลูกค้าจากการสร้างคลังและส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการเดินหน้ารุกขยายไปในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว พม่า และกัมพูชา ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตทั้งรายได้ และกำไร จากงานที่จะเข้ามาเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด
หลังจากนี้อีก 1-3 ปีข้างหน้าบริษัทฯ จะมีความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินเพิ่มขึ้น และพร้อมจะผลักดันให้มีการเติบโตได้ต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายของการเป็นผู้นำตลาดค้าส่ง (B2B) สินค้าเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำ (Water Treatment) อนาคตไกล และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนในระยะยาว
“เป้าหมายปีนี้ เราจะไปเพื่อนบ้านและรุกตลาดในประเทศไทยด้วย 2 ปีนี้ได้เปิดสาขาที่ลาว พม่า ปลายเดือนหน้าจะได้ดีลเลอร์ 1 ราย เปิดร้านที่พนมเปญ รวมถึงขยายธุรกิจไปทางเหนือ พม่า และที่ลาว จะทำให้จบใน 2 ปีนี้ เราเพิ่งเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน 3 ปี มุ่ง 3 ประเทศ เราเป็นตัวแทนจำหน่ายเป็นหลัก หันมาผลิตสินค้าของเราเอง”ดร.วิกร กล่าว
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุน FTI กล่าวว่า การเปิดซื้อขายหุ้นในวันแรกประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของบริษัทฯ ซึ่งจะสามารถนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ไปต่อยอดธุรกิจ สร้างความเข้มแข็ง พร้อมทั้งผลักดันการเติบโตให้เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมาย รวมทั้งเชื่อว่า FTI จะเป็นหุ้นที่มีคุณสมบัติครบเป็นหุ้นไฮบริด ทั้ง Growth Stock และ Dividend Stock ได้อย่างแน่นอน
“FTI ตั้งราคาขายหุ้นละ 2.50 บาท เทียบ P/E 30 เท่าเศษ เปรียบเทียบกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในกลุ่ม TSR 40 เท่า”
บล.ทิสโก้ ประมาณการเบื้องต้น FTI มีมูลค่าที่เหมาะสมในปี 2565 ที่ 3 บาท (อิงบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งที่มีลักษณะการดำเนินธุรกิจใกล้เคียงกันที่ P/E 29 เท่า) คาดผลการดำเนินงานของในปี 2565 ของ FTI ฟื้นตัวจากปีก่อน จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นปัจจัยฉุดผลการดำเนินงานในปีก่อนคลี่คลาย ประกอบกับแนวโน้มเติบโตตามกระแสใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภค (โดยเฉพาะผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง), หน้าร้านและตัวแทนจำหน่ายครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ และการขยายช่องทางจำหน่ายร้าน Aquatek และ Water Store เพิ่มขึ้น จะช่วยหนุนการเติบโตของบริษัททั้งในด้านรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามการขยายสาขา และในด้านอัตรากำไรของบริษัทจากการรุกตลาด B2C ซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่ามากขึ้น
FTI ดำเนินธุรกิจโดยการเป็นผู้นำเข้า ประกอบผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำ (Water Treatment) ครบวงจร ได้แก่ เครื่องกรองน้ำและอุปกรณ์ระบบกรองน้ำ ไส้กรอง สารกรอง ตลอดจนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบบำบัดน้ำ รวมถึงการให้บริการที่เกี่ยวข้อง โดยมีลูกค้ากลุ่มใช้เชิงพาณิชย์ เช่น โรงงานผลิตน้ำดื่ม/น้ำแข็ง ร้านอาหาร เป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนรายได้ใหญ่ที่สุด