HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,610.76 จุด ลดลง 3.73 จุด สวนตลาดต่างประเทศ จากแรงขายทำกำไร นำดิ่งโดยกลุ่มพลังงงานหลังราคาน้ำมันย่อลง และหุ้นแบงก์ใหญ่บางตัว โดยดัชนีฯยังยืนเหนือ 1,600 ได้เพียงแต่ขาดปัจจัยขับเคลื่อนให้ไปต่อ แนวโน้มภาคบ่ายดัชนีฯน่าจะยังยืนเหนือแนวรับ 1,600 ได้ ส่วนแนวต้าน 1,620 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 18 พ.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,610.76 จุด ลดลง 3.73 จุด หรือ -0.23% มูลค่าการซื้อขาย 37,000.30 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,619.22 จุด และต่ำสุด 1,607.74 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้นไปได้ไม่นานก็เจอแรงขายทำกำไรออกมา โดยมีแรงขายนำที่หุ้นในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันย่อตัวลง และหุ้นแบงก์ใหญ่บางตัวก็เจอแรงขาย ซึ่งดัชนีย่อตัวลงถ้าไม่หลุด 1,600 จุด ถือว่ายังไม่เสียหายมาก เพียงแต่ตลาดฯยังขาดปัจจัยขับเคลื่อนให้ไปต่อ
ทั้งนี้ ตลาดปรับตัวลงสวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวก ยกเว้นตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นจีน ที่ปรับตัวลงรับ Sentiment จากแรงขายพันธบัตรที่ออกมาค่อนข้างมาก อาจจะมาจากความไม่มั่นใจเศรษฐกิจจีนที่อาจจะขยายตัวได้น้อยกว่าคาด อันเป็นผลมาจากการล็อกดาวน์ของจีนหลังมีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี การเปิดประเทศ และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่เบาลงไป ทำให้อาจเป็น Sentiment บวกในการประคองเศรษฐกิจไทยได้ หากไม่มีปัจจัยลบเพิ่มเติม และนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้งจะช่วยหนุนตลาด รวมถึงให้ติดตามการปรับประมาณการหลังงบฯออกมากันแล้ว
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายดัชนีฯน่าจะยังยืนเหนือแนวรับ 1,600 จุดได้อยู่ ถ้าหลุดก็จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,590 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,620 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BDMS ปิดที่ 26.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,926.31 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 143.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.69% มูลค่าซื้อขาย 1,617.73 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 159.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +1.27% มูลค่าซื้อขาย 1,490.66 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 67.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,467.15 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 108.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,163.71 ล้านบาท