HoonSmart.com>>พาณิชย์-ก.ล.ต.ร่วมแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เริ่มมีผล 11 เม.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มความคล่องตัว กรรมการมีอำนาจอนุมัติซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 10% กรณีมีข้อบังคับกำหนดไว้ หากจะซื้อคืนครั้งใหม่ ลดเวลาเหลือ 6 เดือนไม่ต้องรอ 1 ปี ส่วนขายคืนลดเหลือ 3 เดือนจาก 6 เดือน เพิ่มวิธีการขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม กรรมการหรือพนักงาน (ESOP)
นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2565 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา
สาระสำคัญของการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท พ.ศ.2544 ได้แก่ 1.แก้ไขเพิ่มเติมรายการเกี่ยวกับการซื้อหุ้นคืน มติที่ใช้ในการซื้อหุ้นคืนและการแก้ไขหรือยกเลิกการซื้อหุ้นคืน และการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขหรือยกเลิกการซื้อหุ้นคืน เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและสาธารณชนทราบข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ขึ้น
2.กำหนดให้กรรมการมีอำนาจในการอนุมัติการซื้อหุ้นคืนที่มีจำนวนไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดได้ หากมีข้อบังคับกำหนดไว้
3.ปรับปรุงถ้อยคำเกี่ยวกับวิธีการซื้อหุ้นคืนและวิธีการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนในกรณีหุ้นที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
4.ลดระยะเวลาการซื้อหุ้นคืนครั้งใหม่จาก 1 ปี เป็น 6 เดือน และลดระยะเวลาการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัทจาก 6 เดือน เป็น 3 เดือน ทำให้บริษัทสามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น
5.เพิ่มเติมวิธีการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนให้สามารถจำหน่ายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม กรรมการหรือพนักงานของบริษัท (ESOP)
การแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้สอดคล้องกับแนววิถีการประกอบธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ทำให้บริษัทสามารถบริหารสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเป็นการคุ้มครองผู้ถือหุ้นและผู้ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น อำนวยความสะดวก และเป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจของบริษัทในภาพรวม