HoonSmart.com>> บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ออกกองทุน “แอล เอช บล็อกเชน” ทริกเกอร์ฟันด์ ลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องเทคโนโลยี Blockchain และ Digital Asset ผ่านกองทุน ETF ต่างประเทศ 2 กองทุน กำหนดเป้าหมายเลิกโครงการ เมื่อ NAV แตะ 10.80 บาท ภายใน 8 เดือน เปิดขาย IPO วันนี้ – 26 เม.ย.นี้
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แลนด์ แลนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) กล่าวว่า เทคโนโลยี Blockchain และ Digital Asset จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในอนาคต โดย Blockchain สามารถนำมาใช้ประยุกต์ใช้กับธุรกิจทั้งภาคการเงินและอุตสาหกรรม โดยข้อดีคือ มีความโปร่งใส ตรวจสอบและเชื่อถือได้, ความปลอดภัยสูง (Security), ลดต้นทุนในการทำธุรกรรมเพราะไม่มีตัวกลาง (Decentralization) มี use case เกิดขึ้นแล้วมากมายเช่น IBM Food Trust ซึ่งเป็น Platform blockchain ที่ใช้ตรวจสอบแหล่งที่มาของอาหาร ทำให้ไม่สูญหาย ผู้บริโภคได้สินค้าสดใหม่ เป็นต้น
ด้านการเติบโต IDC (International Data Corporation) คาดว่าอุตสาหกรรม Blockchain มีแนวโน้มเติบโต 48% ต่อปี จนถึงปี 2024 และจะมีมูลค่าอุตสาหกรรมสูงถึง 1.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ Deloitte เผยว่า 55% ขององค์กรทั่วโลกมองว่าการนำ Blockchain มาใช้ เป็นกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาองค์กร ส่วน Digital Asset ต่างๆ เช่น สกุลเงินดิจิทัล มีการนำไปใช้แพร่หลายมากขึ้น โดยกว่า 15,000 ร้านค้าทั่วโลกเช่น Starbucks, Shopify, Pizza Hut ยอมรับการซื้อขายด้วย Bitcoin ขณะที่ 34% ของประเทศทั่วโลกอนุญาตให้ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลได้
นอกจากนี้นักลงทุนสถาบันหันมาลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น และธนาคารยักษ์ใหญ่ระดับโลก เช่น J.P. Morgan, Goldman Sachs และ Morgan Stanley ยังได้เริ่มนำเสนอ Digital Asset ให้กับลูกค้า High Net Worth ทั้งหมดนี้จึงเป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีว่าการตื่นตัวใน Blockchain และ Digital Asset ไม่ได้มาจากแฟชั่นที่เกิดขึ้นชั่วคราวแล้วก็จบลงในระยะสั้น
อย่างไรก็ตามข้อเสียในระยะสั้นคือความเสี่ยงด้าน regulatory risk ซึ่งจะทำให้เกิดความผันผวนบ้างในระยะสั้น
กองทุนเปิด แอล เอช บล็อกเชน (LHBLOCKCHAIN) ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมและเป็นกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ระดับความเสี่ยงกองทุน ระดับ 6 ซึ่ง LHBLOCKCHAIN ตอบโจทย์การลงทุนของผู้ที่ต้องการลงทุนและได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเทคโนโลยี Blockchain และ Digital Asset ต่างๆ เนื่องจากผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนได้ในสัดส่วนร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยสามารถเพิ่มสัดส่วนเงินสดได้ในยามที่สภาวะตลาดมีความไม่แน่นอนสูงเพื่อปกป้อง downside risk ของกองทุน และสามารถเพิ่มสัดส่วนสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากธีมข้างต้นเพื่อบรรลุเป้าหมายทริกเกอร์ภายในระยะเวลาที่ตั้งเป้าหมาย
บริษัทจัดการจะเลิกโครงการเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ มูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.80 บาท/หน่วย (ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทน) ในช่วง 8 เดือนแรก ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ และมูลค่าหน่วยลงทุนที่จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไม่ต่ำกว่ามูลค่า 10.70 บาท/หน่วย
ในกรณีเกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขการเลิกกองทุนข้างต้น บริษัทจัดการจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมดภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขการเลิกกองทุน และจะชำระเงินค่าขายหน่วยลงทุนภายใน 5 วันทำการนับตั้งแต่วันถัดจากวันทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ
นายมนรัฐ กล่าวเสริมอีกว่า LHBLOCKCHAIN เริ่มขายครั้งแรกวันนี้ – 26 เม.ย.2565 เริ่มต้นลงทุน 1,000 บาท