HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 3.45 จุด แกว่งไซด์เวย์หลัง IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 65-66 ลงเหลือปีละ +3.6% Y-Y จากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน และเตือนเงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งแรงกดดันให้ธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวเร็วขึ้น กดดันบอนด์ยีลด์ปรับขึ้นเป็นลบต่อตลาดหุ้น พร้อมให้กรอบ 1,670-1,680 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 20 เม.ย.2565 ณ เวลา 9.59 น. อยู่ที่ระดับ 1,679.07 จุด เพิ่มขึ้น 3.45 จุด หรือ +0.21% มูลค่าซื้อขาย 2,234.11 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองดัชนีฯแกว่งไซด์เวย์ ในกรอบ 1,670-1,680 จุด โดยกลุ่มพลังงานจะถ่วงตลาดจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงกว่า 5% หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( IMF) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP โลกปี 65-66 ลงเหลือปีละ +3.6% Y-Y จากผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และเตือนว่าเงินเฟ้อทั่วโลกจะพุ่งแรง โดยสหรัฐฯจะแตะระดับ +7.7% ยูโรโซน +5.3% และตลาดเกิดใหม่ +8.7% ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะกดดันให้ธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินนโยบายการเงินที่จะตึงตัวขึ้นเร็ว กดดันให้ Bond Yield ปรับตัวขึ้นซึ่งเป็นลบต่อตลาดหุ้น
ทั้งนี้ ประเมินว่า SET Index มีโอกาสพักตัวในช่วงสั้น 1-2 เดือนนี้หาระดับ 1,650+- จุดหรือต่ำกว่า อย่างไรก็ตามยังมองเป็นโอกาสในการ “สะสม” เพื่อถือลงทุนระยะกลางยาว โดยยังให้น้ำหนักบวกต่อกระแสเงินทุนต่างชาติที่จะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในครึ่งหลังปี 65 จากเศรษฐกิจที่จะเติบโตในอัตราเร่ง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่จะฟื้นชัดขึ้นในครึ่งหลังปี 65 เป็นต้นไป
หุ้นที่ชอบยังคงเป็นกลุ่ม Value และ Domestic Play ที่มี PER/PBV ต่ำ ได้แก่ กลุ่มธนาคาร โรงกลั่น ค้าปลีก อสังหาฯ อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ เป็นต้น ส่วนระยะสั้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/65 แข็งแกร่ง
กลยุทธ์ เก็งกำไรหุ้นที่คาดงบไตรมาส 1/65 แข็งแกร่ง และยังเน้นลงทุนหุ้น Value และ Domestic Play
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KKP อยู่ที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +2.84% มูลค่าซื้อขาย 123.05 ล้านบาท
BBL อยู่ที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.37% มูลค่าซื้อขาย 87.49 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 149.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -1.97% มูลค่าซื้อขาย 83.59 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.66% มูลค่าซื้อขาย 81.71 ล้านบาท
EKH อยู่ที่ 8.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 75.86 ล้านบาท