บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดหุ้นวันนี้แกว่งไซด์เวย์ วิตกศก.ชะลอจากสงคราม

HoonSmart.com>>บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดหุ้นวันนี้แกว่งไซด์เวย์ ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่เป็นขาขึ้น และเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากสงคราม ทำให้ปัจจุบันเข้าสู่ภาวะ Stagflation ซึ่งกดดันสินทรัพย์เสี่ยงและจำกัดการปรับขึ้นในระยะนี้ ขณะที่ภาพเศรษฐกิจในประเทศยังดูดีกว่าเล็กน้อยหลังผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 กลยุทธ์เน้นลงทุนในกลุ่ม Value และ Domestic Play หุ้นเด่นวันนี้”ซื้อ”FSMART ปรับเพิ่มเป้าเป็น 16 บาท มองบวกจากธุรกิจเต่าบิน

บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดตลาดหุ้นวันนี้อยู่ในช่วงแกว่งไซด์เวย์ โดยวานนี้คาดอ่อนตัวลงหากรอบ 1,670-1,675 จุด โดยถูกกดดันจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ที่ปรับตัวขึ้น กลุ่มพลังงานต้นน้ำคาดประคองตลาดได้บ้างจากราคาน้ำมันที่พุ่งหลังรัสเซียต้องการให้จ่ายเงินซื้อพลังงานเป็นรูเบิล อย่างไรก็ตามมองกลุ่ม Real Sector อื่น ๆ ยังถูกกดดันจากฝั่งต้นทุนการผลิตและมาร์จิ้นที่อาจชะลอตัว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่เป็นขาขึ้นและเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากสงคราม ทำให้ปัจจุบันเข้าสู่ภาวะ Stagflation ซึ่งกดดันสินทรัพย์เสี่ยงและจำกัดการปรับขึ้นในระยะนี้

ขณะที่ภาพเศรษฐกิจในประเทศยังดูดีกว่าเล็กน้อย โดยคาดทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องตามการผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลังปี 65 หลังประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นหนุนการท่องเที่ยวฟื้นตัวระยะยาว ภาพรวมจึงยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่เน้นหุ้น Value และ Domestic Play ซึ่งทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อและนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ตึงตัวได้ดี กลุ่มที่ชอบยังคงเป็น ธนาคาร ค้าปลีก อสังหาฯ อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ เป็นต้น

กลยุทธ์เน้นลงทุนในกลุ่ม Value และ Domestic Play ที่กระทบจากปัจจัยต่างประเทศจำกัดและได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

หุ้นเด่นวันนี้ FSMART “ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 16 บาท มีมุมมองบวกต่อธุรกิจตู้เต่าบินมากขึ้นจากจำนวนแก้วที่ขายได้เฉลี่ยต่อตู้ที่เพิ่มขึ้นจาก 45 แก้วต่อวันในปีก่อนปรับขึ้นเป็นกว่า 60 แก้วในปัจจุบัน ขณะที่จำนวนตู้คาดเร่งตัวขึ้นเป็น 4.6 พันตู้ปีนี้และ 1.26 หมื่นตู้ปี 66 และมีแนวโน้มปรับเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นฟอร์ท เวนดิ้งจากปัจจุบันที่ 19% และคาดหวังระดับ 20-25% ซึ่งสามารถเปลี่ยนวิธีการรับรู้รายได้เป็นส่วนแบ่งกำไร ซึ่งหากรวมกำไรจากเต่าบินในสัดส่วนดังกล่าว คาดกำไรปี 65-66 +53% Y-Y และ +62% Y-Y ตามลำดับ พร้อมให้แนวรับ 12-11.50 บาท แนวต้าน 13-13.50 บาท