HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นเช้านี้พุ่ง 15.54 จุด ตามตลาดต่างประเทศ หลังการเจรจาระหว่างรัสเซีย-ยูเครนใกล้ได้ข้อสรุป ส่งผลให้ราคาน้ำมัน-ราคาทองร่วง นอกจากนี้ผลประชุมเฟดออกมาตามคาด ปีนี้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้ง แม้จะมีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐลง ซึ่งเป็นผลเชิงลบ อีกทั้งตลาดหุ้นฮ่องกงฟื้นแรงหลังจีนหนุนช่วยเหลือทำให้มีแรงซื้อกลับ แม้เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัว พร้อมให้แนวรับ 1,660-1,650 แนวต้าน 1,682-1,692 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 17 มี.ค.2565 ปรับตัวขึ้น ณ เวลา 10.06 น. อยู่ที่ระดับ 1,683.46 จุด เพิ่มขึ้น 15.54 จุด หรือ +0.93% มูลค่าซื้อขาย 11,234.12 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกัน เช่นเดียวกับตลาดในยุโรป และตลาดสหรัฐฯ หลังจากที่การเจรจาระหว่างรัสเซีย และยูเครน ใกล้ได้ข้อสรุป ส่งผลให้ราคาน้ำมัน และราคาทองปรับตัวลง
นอกจากนี้ ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาตามคาด โดยเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% และปีนี้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้ง ซึ่งไม่มียาแรงอะไร แม้ว่าจะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐลง ซึ่งเป็นผลเชิงลบ รวมทั้งตลาดหุ้นฮ่องกงฟื้นตัวแรงหลังจากที่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุนด้วยการมีมาตรการช่วยเหลือ ซึ่งทำให้มีแรงซื้อกลับมาใหม่ แต่เศรษฐกิจก็เข้าสู่ภาวะชะลอตัว
นายถนอมศักดิ์ แนะนำหุ้นขึ้นก็ควรขาย สำหรับหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) คาดว่าจะปรับตัวลง ซึ่งก็เป็นจังหวะในการเข้าซื้อ เพราะเชื่อว่าพลังงานยังขาดแคลนอยู่ และสถานการณ์โลกยังไม่ชัดเจน การคว่ำบาตรยังมีอยู่ ปัญหาเศรษฐกิจก็ยังอยู่ รอบนี้คนที่มีหุ้นอยู่ก็ควรจะหาจังหวะในการขายทำกำไรได้
พร้อมให้แนวรับ 1,660-1,650 จุด ส่วนแนวต้าน 1,682-1,692 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BBGI อยู่ที่ 10.30 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ -1.90% มูลค่าซื้อขาย 1,034.59 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 164.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +0.92% มูลค่าซื้อขาย 896.85 ล้านบาท
KCE อยู่ที่ 64.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +1.59% มูลค่าซื้อขาย 647.45 ล้านบาท
IVL อยู่ที่ 46.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ +3.95% มูลค่าซื้อขาย 490.53 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 143.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ -2.38% มูลค่าซื้อขาย 441.49 ล้านบาท