HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดบวก 2.14 จุด แกว่งแคบคล้ายตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ติดลบเล็กน้อย หลังตอบรับสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนไปแล้ว แต่ยังต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป และยังรอติดตามการประชุมเฟดที่จะมีขึ้นในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 933.88 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 118.98 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้แกว่งไซด์ ในกรอบ 1,640-1,650 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 14 มี.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,660.15 จุด เพิ่มขึ้น 2.14 จุด หรือ +0.13% มูลค่าซื้อขาย 65,217.92 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,662.66 จุด ต่ำสุด 1,651.90 จุด
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 933.88 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 311.88 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 118.98 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 741.40 ล้านบาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งแคบ คล้ายคลึงในตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบเล็กน้อย ยกเว้นตลาดหุ้นจีน และฮ่องกงที่ปรับตัวลงแรงกว่าตลาดอื่น เป็นผลจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในจีน ทำให้ต้องล็อกดาวน์ในหลายเมือง รวมถึงเมืองเซินเจิ้น ที่ใกล้กับฮ่องกง และปกติจะมีการติดต่อข้ามแดนกันไป-มาอยู่ เมื่อเซินเจิ้นถูกล็อกดาวน์ก็ทำให้ไม่สามารถข้ามแดนกันได้ ส่งผลให้หุ้นในตลาดฮ่องกงร่วงแรง
ทั้งนี้ ตลาดได้ตอบรับสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย และยูเครนไปแล้ว แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟดจะสร้างความประหลาดใจเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ หรือจะมีการส่งสัญญาณอะไรออกมาเกี่ยวกับเศรษฐกิจ
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 15 มี.ค.2565 ตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,640-1,650 จุด ซึ่งนโยบายของเฟดจะเป็นตัวตัดสินทิศทางตลาดฯ ซึ่งถ้าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นลักษณะชะลอ ตลาดก็จะตอบรับในทางบวก แต่ถ้าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นลักษณะขึ้นต่อเนื่อง ตลาดจะปรับฐานและมีโอกาสที่จะหลุดแนว 1,640 จุดได้
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 162.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ +3.18% มูลค่าซื้อขาย 4,676.08 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -1.00% มูลค่าซื้อขาย 1,963.35 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 11.20 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ -2.61% มูลค่าซื้อขาย 1,792.12 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ +2.25% มูลค่าซื้อขาย 1,685.14 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 25.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,551.84 ล้านบาท