ดาวโจนส์ปิดร่วง 229 จุด เกาะติดวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 229 จุด นักลงทุนยังกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน ด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงต่ำกว่าคาด ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3% ตลาดหุ้นยุโรปสวนทางบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 11 มีนาคม 2565 ปิดที่ 32,944.19 จุด ลดลง 229.88 จุด หรือ -0.69% ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ขณะที่นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน รวมไปถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ต่ำกว่าคาด

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,204.31 จุด ลดลง 55.21 จุด, -1.30%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,843.81 จุด ลดลง 286.16 จุด, -2.18%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 2% ดัชนี S&P500 ลดลง 2.9% และดัชนี Nasdaq ลดลง 3.5% ซึ่งทั้งดัชนี S&P และดัชนี Nasdaq ตกลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน

ในช่วงแรกตลาดปรับตัวขึ้นจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียกล่าวว่าว่า มีความคืบหน้าในเชิงบวกในการเจรจากับยูเครน และการเจรจาเกิดขึ้นแทบจะทุกวัน อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเจรจาหยุดยิง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ยังเดินหน้ายุติสัมพันธ์ทางการค้ากับรัสเซีย โดยจะยกเลิกสถานะ Permanent Normal Trade Relations ขณะที่สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายด้านเงินทุนซึ่งรวมถึงเงินช่วยเหลือยูเครน 14 พันล้านดอลลาร์

ไรอัน ดีทริก จาก LPL Financial กล่าวว่า ตลาดได้ปรับตัวลดลงอีกสัปดาห์หนึ่ง เพราะผิดหวังที่ไม่มีการหยุดยิง จึงทำให้มีความไม่แน่นอนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แบงก์ออฟ อเมริกา ระบุเมื่อวันศุกร์ว่า การลดลงของตลาดจากปัจจัยสงครามอาจถึงจุดต่ำสุดแล้ว

“ดัชนี S&P 500 ที่ลดลง 12% จากจุดสูงสุด บ่งชี้ว่าฟองสบู่ส่วนใหญ่หายไปแล้ว” สาวิตา ซูบราเมเนียน จากแบงก์ออฟ อเมริกากล่าว “หุ้นส่วนใหญ่รับรู้ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ไปแล้ว ซึ่งดัชนี S&P 500 ร่วงลง 9% จากจุดสูงสุดสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีข่าวรัสเซีย-ยูเครนในต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งคล้ายกับที่ร่วงลง 7-8% จากสถานการณ์ระดับมหภาค/ภูมิรัฐศาสตร์ก่อนหน้านี้”

ด้านราคาพลังงานปรับสูงขึ้น ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate เพิ่มขึ้น 2.9% มาที่ราว 109 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 2.9% มาที่ 112 ดอลลาร์

มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมีนาคมลดลงสู่ระดับ 59.7 จาก 62.8 ในเดือนกุมภาพันธ์ ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2011

“ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ตกลงไปอีก ซึ่งเป็นผลจากความกังวลของภาคครัวเรือนเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่รุนแรงขึ้น ได้ทำให้มีความกังวลมากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวรุนแรง หรืออาจจะถดถอย” จิม พอลเสน จาก Leuthold Group กล่าว

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่เพิ่มขึ้น 3.5% นักลงทุนยังเกาะติดสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน รวมทั้งประเมินเงินเฟ้อ และทิศทางของธนาคารกลางสหภาพยุโรป(ECB)หลังประกาศจะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าแผน

หลายประเทศได้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเมื่อวานนี้ โดยเยอรมนีรายงานเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 5.5% จากระยะเดียวกันของปีก่อน
GDP สหราชอาณาจักร เดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.8% จากที่ติดลบ 0.2% ในเดือนธันวาคม 2021 และสูงกว่า 0.2% ที่นักวิเคราะห์คาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 431.17 จุด เพิ่มขึ้น 4.05 จุด, +0.95%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,155.64 จุด เพิ่มขึ้น 56.55 จุด, +0.80
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,260.25 จุด เพิ่มขึ้น 53.05 จุด, +0.85%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,628.11 จุด เพิ่มขึ้น 186.01 จุด, +1.38%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 3.31 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 109.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 3.34 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 112.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล