ดาวโจนส์ปิดลบ 112 จุด เงินเฟ้อพุ่งสูงรอบ 40 ปี เจรจารัสเซีย-ยูเครนล้มเหลว

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 112 จุด รายงานตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดรอบ 40 ปี ด้านการเจรจารัสเซีย-ยูเครนล้มเหลว บอนด์ยีลด์ทะลุ 2% ราคาน้ำมันดิบลดลง ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 10 มีนาคม 2565 ปิดที่ 33,174.07 จุด ลดลง 112.18 จุด หรือ 0.34% จากเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 40 ปี และการเจรจาสงบศึกระหว่างรัสเซียและยูเครนล้มเหลว ทำให้นักลงทุนกังวลว่าสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศจะกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,259.52 จุด ลดลง 18.36 จุด, -0.43%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,129.96 จุด ลดลง 125.58 จุด, -0.95%

นักลงทนยังเกาะติดสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ แต่ในระยะสั้นหันความสนใจไปที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ
การเจรจาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียและยูเครนคืบหน้าเพียงเล็กน้อยในบางประเด็นรวมทั้งการหยุดยิงหรือเปิดเส้นทางอพยพสำหรับพลเรือนที่พยายามหนีออกจากเมืองมาริอยูปอลที่ถูกปิดล้อม

ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 7.9% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 40 ปี นับตั้งแต่ปี 1982 แซงหน้าอัตราสูงสุดในรอบ 40 ปีที่ 7.5%ในเดือนมกราคม รวมทั้งสูงกว่า 7.8% ตัวเลขของทั้งปี ที่นักวิเคราะห์คาดในการสำรวจความเห็นโดย Dow Jones

เมื่อเทียบแบบเดือนต่อเดือน ดัชนีเพิ่มขึ้น 0.8% สูงกว่า 0.7% ที่นักวิเคราะห์คาด

จอห์น เลียร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Morning Consult กล่าวว่า สงครามในยูเครนจะทำให้การควบคุมเงินเฟ้อยากขึ้น ราคาก๊าซและพลังงานยังคงสูงขึ้น ราคาข้าวสาลีพุ่งทะลุเพดาน และห่วงโซ่อุปทานยังคงมีปัญหา

คริสโตเฟอร์ รัปคีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก FWDBONDS กล่าวว่า ในอดีตอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นก่อนภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอดีต และครั้งนี้ ก็ได้เพิ่มสูงขึ้นถึงระดับที่มีผลต่อการเติบโตอีกครั้ง

เงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นตอกย้ำการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลาง(เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐทะลุ 2% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันได้อ่อนตัวลงในสองวันที่ผ่านมา ในวันพุธราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ลดลงมากกว่า 12% และ 13% ตามลำดับ และราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงอีกครั้งในวันพฤหัสบดีมาที่ประมาณ 106 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ Brent เบรนท์ลดงลง 1% มาที่ระดับ 109 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทิโมธี เลสโก ที่ปรึกษาอาวุโสด้านความมั่งคั่งของ Mariner Wealth Advisors กล่าวว่า ความปั่นป่วนของตลาดดูเหมือนจะผูกติดอยู่กับการเจรจาสันติภาพยูเครน-รัสเซีย ที่มีผลต่อความผันผวนของต้นทุนพลังงาน การปรับขึ้นจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร่วงลงในวันพุธ กลับลดลงเพราะการเจรจาสันติภาพไม่บรรลุผล
หุ้นเชฟรอนและเอ็กซอนโมบิลเพิ่มขึ้น 2.7% และ 3.1% ตามลำดับ

หุ้นแอมะซอนเพิ่มขึ้น 5.4% หลังจากประกาศแตกหุ้น 20 ต่อ 1 และซื้อหุ้นคืน 10,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนหุ้นที่อื่นในกลุ่มเทคโนโลยีปิดลบ โดยหุ้น Zoom Video ลดลง5.3% และ หุ้นไมโครซอฟต์ลดลง 1% หุ้นแอปเปิลลดลง 2.7% หุ้น Meta ลดลง1.7% หุ้นเทสลา ลดลง 2.4%

หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 1.1% หลังประกาศจะปิดกิจการในรัสเซีย และเป็นหนึ่งในธนาคารเพื่อการลงทุนรายใหญ่ระดับโลกรายแรกๆ ดำเนินการหลังจากที่รัสเซียบุกยูเครน ต่อมาในบ่ายวานนี้เจพีมอร์แกน ประกาศดำเนินการเช่นเดียวกัน หุ้นเจพีมอร์แกนลดลง 1.2%

นักลงทุนยังจับตาการตัดสินใจของธนาคารกลางสหภาพยุโรป(European Central Bank:ECB) ที่จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรในไตรมาสที่ 3ของปีนี้หากข้อมูลทางเศรษฐกิจเอื้อ

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มรถยนต์ที่ลดลง 4.8% หลังจากECB ประกาศจะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าแผน ขณะที่นักลงทุนยังเกาะติดสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน และความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์

ธนาคารกลางสหภาพยุโรปเมื่อวานนี้ได้คงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ไว้ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากกับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% และยังคงดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวัง ในขณะที่ประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย แต่ประกาศว่าจะยุติการซื้อสินทรัพย์เร็วกว่าที่วางแผนไว้ อย่างไรก็ตามพร้อมที่จะทบทวนหากสถานการณ์เปลี่ยน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 427.12 จุด ลดลง 7.33 จุด, -1.69%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,099.09 จุด ลดลง 91.63 จุด, -1.27%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,207.20 จุด ลดลง 180.63 จุด, -2.83%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,442.10 จุด ลดลง 405.83 จุด, -2.93%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 2.68 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 106.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 1.81 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 109.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล