หุ้นปิดร่วง 24.36 จุด หวั่นสถานการณ์ยูเครนขยายวง ต่างชาติขาย 3.6 พันลบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดร่วงแรง 24.36 จุด ตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดยุโรปร่วง 2% และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สร่วงกว่า 200 จุด หลังรัสเซียยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนได้แล้ว หวั่นลุกลามไปประเทศอื่นในยุโรปหากยึดยูเครนได้ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,665.12 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 5,036.81 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้าผันผวนขึ้นกับสถานการณ์ยูเครน พร้อมให้แนวรับ 1,620 แนวต้าน 1,713 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 4 มี.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,671.72 จุด ลดลง 24.36 จุด หรือ -1.44% มูลค่าซื้อขาย 87,712.50ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,689.89 จุด ต่ำสุด 1,671.70 จุด

นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,665.12 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 595.37 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 5,036.81 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 776.32 ล้านบาท

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวลงแรงเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในยุโรปเทรดบ่ายนี้ร่วงแรง 2% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ปรับตัวลงกว่า 200 จุด หลังจากที่รัสเซียได้ยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) ในยูเครน ได้แล้ว ซึ่งหากรัสเซียสามารถยึดกรุงเคียฟได้อีก เท่ากับยึดยูเครนได้ ต่างก็วิตกกันว่าต่อไปอาจจะลุมลามไปยังประเทศอื่นในนยุโรปได้ ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรกันออกมาก่อน แล้วโยกเงินไปลงทุนพันธบัตรกันมากขึ้นทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ปรับตัวลงมาก

ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศแม้จะอยู่ในระดับสูง แต่ดูเหมือนจะไม่กระทบตลาดมาก

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้า ตลาดคงจะผันผวน ขึ้นกับสถานการณ์รัสเซีย และยูเครน และจะหันไปดูเงินเฟ้อมากขึ้น ซึ่งคงจะสูงขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)คงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% ซึ่งการประชุมในเดือนมี.ค.อาจขึ้นดอกเบี้ย 0.25% แต่เฟดก็ไม่ได้ปิดทางที่จะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% โดยให้แนวรับ 1,620 จุด แนวต้าน 1,713 จุด

ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าให้ติดตามสถานการณ์ยูเครนต่อไป และติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่เร่งตัวขึ้นด้วย รวมถึงทิศทางราคาน้ำมัน และตัวเลขเศรษฐกิจทั่วไปของประเทศสำคัญ นอกจากนี้ให้ติดตามภาครัฐฯจะมีมาตรการความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันสูงอย่างไร

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTT ปิดที่ 38.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -3.75% มูลค่าซื้อขาย 4,061.40 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 11.70 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ -6.40% มูลค่าซื้อขาย 3,296.52 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 150.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 3,133.55 ล้านบาท
EA ปิดที่ 90.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -1.10% มูลค่าซื้อขาย 2,414.65 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 161.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.62% มูลค่าซื้อขาย 2,348.29 ล้านบาท