HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงแรง ดัชนีดาวโจนส์ทรุด 597 จุด รัสเซียบุกโจมตียูเครน ดันราคาน้ำมันพุ่งรอบ 7 ปี ตลาดหุ้นยุโรปลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 2 มีนาคม 2565 ปิดที่ 33,294.95 จุด ลดลง 597.65 จุด หรือ 1.76% จากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น และนักลงทุนยังติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,306.26 จุด ลดลง 67.68 จุด, -1.55%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,532.46 จุด ร่วงลง 218.94 จุด, -1.59%
ตลาดปรับตัวลดลงหลังจากกล้องดาวเทียมจับภาพขบวนทหารของรัสเซียกำลังรุกคืบเข้าไปยังกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐรายหนึ่งกล่าวเมื่อวันอังคารว่า 80% ของกองทหารรัสเซียที่ประจำการที่ชายแดนยูเครนเมื่อเดือนที่แล้วได้เข้ามาในยูเครนแล้ว
การรุกรานอย่างต่อเนื่องของรัสเซียทำให้ราคาพลังงานสูงขึ้น ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า West Texas Intermediate พุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ทะลุระดับ 106 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและแตะระดับสูงสุดในรอบ7 ปี
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น7.69 ดอลลาร์ หรือ 8% ปิดที่ 103.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นภายในวันเดียวมากสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020และสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2014 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 7 ดอลลาร์ หรือ 7.2% ปิดที่ 104.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2014
ราคาข้าวสาลีก็พุ่งขึ้นเช่นกันในวันอังคาร การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทำให้วิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อมากขึ้นในสหรัฐฯและยุโรป
หุ้นกลุ่มธนาคารลดลงมากสุด โดยหุ้นแบงก์ออฟอเมริกาลด 3.9% ห้นเวลลส์ ฟาร์โกลดลง 5.8% และหุ้น Charles Schwab ลดลงเกือบ 8% หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงต่ำกว่า 1.7%
ความขัดแย้งในยุโรปตะวันออกและการคว่ำบาตรรัสเซียทำให้นักลงทุนบางรายกังวลว่าตลาดสินเชื่อจะชะงัก
แม้ธนาคารในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่จะให้กู้บริษัทรัสเซียโดยตรงน้อย แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าการคว่ำบาตรระบบการเงินของรัสเซียจะส่งผลกระทบต่อธนาคารในยุโรปอย่างไร นักวิเคราะห์ของ CFRA Ken Leon กล่าวว่า เป็นการดำเนินการผ่านธนาคารตัวแทนในยุโรป โดยมีธนาคารอิตาลี, ธนาคารฝรั่งเศส, ออสเตรียให้กู้เล็กน้อยกับรัสเซีย
หุ้นอเมริกันเอ็กซ์เพรสลดลงมากสุดในดัชนีดาวโจนส์โดยลดลงกว่า 8% หุ้นโบอิ้งลดลง 5%
หุ้นพลังงานเพิ่มขึ้น โดยหุ้นเชฟรอนเพิ่มขึ้นเกือบ 4% หุ้นเอ็กซอนเพิ่มขึ้น 1%
มาตรการคว่ำบาตรอย่างหนักจากสหรัฐฯ และพันธมิตรได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรัสเซียและธนาคารกลาง บริษัทใหญ่ๆ ได้ปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรโดย Mastercard และ Visa ได้ตัดสถาบันการเงินของรัสเซียจากเครือข่ายชำระเงิน
อย่างไรก็ตามตลาดได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของทาร์เก็ตบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สูงคาด ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 9.9%
นักลงทุนรอการแถลงรอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันที่ 2 มีนาคม และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 3 มีนาคมของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลาง (เฟด) เพื่อจับความเห็นอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากความคาดการณ์เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยลดลงเล็กน้อยนับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซีย
ไอเอชเอส มาร์กิต รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นมาที่ 57.3 จาก 55.5 ในเดือนมกราคม
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่ลดลง 7% จากการรุกคืบของรัสเซียในยูเครน และการใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียจากนานาชาติ แม้มีการรายงานผลประกอบการ
หุ้นในหลายบริษัท ที่ตลาดมองว่ามีความเสี่ยงจากสถานการณ์รัสเซียยังคงเจอแรงขายโดยบริษัท Polymetal International ธุรกิจเหมืองลดลงอีก 26%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 442.37 จุด ลดลง 10.74 จุด, -2.37%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,330.20 จุด ลงลง 128.05 จุด, -1.72%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,396.49 จุด ลดลง 262.34 จุด, -3.94%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,904.85 จุด ลดลง 556.17 จุด, -3.85%