HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบ ดาวโจนส์ร่วงต่อ 171 จุด นักลงทุนเกาะติดสถานการณ์รัสเซียและยูเครนตึงเครียดมากขึ้น ทั้งกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ด้านตลาดหุ้นยุโรปลบ แรงขายกลุ่มแบงก์นำ ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ปิดที่ 34,566.17 จุด ลดลง 171.89 จุด หรือ 0.49% นักลงทุนยังคงเกาะติดสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ตึงเครียดมากขึ้น รวมทั้งกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง(เฟด)
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,401.67 จุด ลดลง 16.97 จุด, -0.38%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,790.92 จุด ลดลง 0.24 จุด, -0.002%
ทางด้านน้ำมันอยู่ในแดนลบตลอดทั้งกวันก่อนที่เด้งขึ้นในช่วงบ่ายส่งผลให้สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI พุ่ง 2.6% ไปเหนือ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์ และกดดันหุ้นให้อ่อนตัวลง แม้ยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด แต่สหรัฐฯได้สั่งปิดสถานทูตอเมริกันในกรุงเคียฟและให้ย้ายไปยังพื้นที่ฝั่งตะวันตกของยูเครนแล้ว
นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศชี้ว่า รัสเซียมีการเสริมกำลังทหารจำนวนมากบริเวณชายแดนยูเครน
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งไบเดนพยายามห้ามไม่ให้ปูตินโจมตียูเครนนั้นไม่ประสบความสำเร็จ
การลดการถือครองสินทรพย์เสี่ยงส่งผลให้หุ้นแคทเธอพิลลาร์ลดลง 0.7% และหุ้นโบอิ้งลดลง 1.1%
นักวิคราะห์ทางเทคนิคจาก Credit Suisse ระบุว่า ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกยังอ่อนตัว ด้วยแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นทั่วโลกและแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีว่า เฟดต้องควบคุมเงินเฟ้อในเชิงรุก “เราจำเป็นขยับแผนถอนมาตรการกระตุ้นให้เร็วขึ้นกว่าที่วางไว้ เพราะอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าที่ประเมิน และ เป็นอัตราเงินเฟ้อที่สูงมาก”
ในสัปดาห์ที่แล้ว นายบูลลาร์ดได้ให้ความเห็นว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ภายในเดือนกรกฎาคม
ตลาดคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนมีนาคม
นักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมนแซคส์ปรับคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในปี 2022 เป็น 7 ครั้ง และประเมินอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีจะเพิ่มขึ้นไปที่ 2.25% ในปีนี้ รวมทั้งปลดเป้าหมายดัชนี S&P 500 ลดมาที่ 4,900 จาก 5,100
นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนกล่าว่า แม้ความเสี่ยงจากความขัดแย้งในยูเครนจะสูง แต่ก็มีผลกระทบจำกัดต่อตลาดตราสารทุนทั่วโลก และน่าจะทำให้มีการประเมินนโยบายใหม่โดย [ธนาคารกลาง]”
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มธนาคารที่ลดลง 3.2% นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ตึงเครียดมากขึ้น รวมทั้งกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง(เฟด) จากการให้ความเห็นเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)บางราย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 460.96 จุด ลดลง 8.61 จุด,-1.83%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,531.59 จุด ลดลง 129.43 จุด, -1.69%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,852.20 จุด ลดลง 159.40 จุด, -2.27%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,113.97 จุด ลดลง 311.15 จุด, -2.02%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 2.36 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 95.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 2.04 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 96.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล