‘กัลฟ์’ลงนามสัญญาร่วมทุนโรงไฟฟ้าก๊าซในประเทศโอมาน ขนาด 326 เมกะวัตต์ บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 45% เท่ากับ 146.7 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าได้ในปี 2563 ดีบีเอสฯเพิ่มมูลค่าหุ้น 3%
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ลงนามสัญญาร่วมทุนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติขนาด 326 เมกะวัตต์ กับกลุ่มบริษัทโอมานออยล์ เอส.เอ.โอ.ซี (โอโอซี) ของรัฐบาลประเทศโอมาน สัดส่วน 45% และ 55% ใน บริษัท Duqm Power Company L.L.C.คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าได้ในปี 2563
บริษัท Duqm Power เป็นผู้ดำเนินโครงการ Duqm Independent Power& Water Project โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ กำลังการผลิตติดตั้ง 326 เมกะวัตต์ และมีกำลังการผลิตน้ำจืด 1,667 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Duqm ประเทศโอมาน มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและน้ำจืด 25 ปี และต่อได้อีก 5 ปี ให้กับโรงกลั่นน้ำมัน Duqm ขนาดกำลังการผลิตน้ำมันดิบวันละ 2.3 แสนบาร์เรล และเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัทพลังงงานขนาดใหญ่ของ 2 ประเทศ คือ โอมาน ถือหุ้น 50% และ คูเวตปิโตรเลียมอินเตอร์เนชั่นแนล จากประเทศคูเวต ถือหุ้น 50%
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) นักวิเคราะห์ว่า กัลฟ์ฯชนะการประมูลโรงไฟฟ้าก๊าซในประเทศโอมาน มูลค่าเงินลงทุนรวม 489 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท) จะช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้นได้อีกประมาณ 3% และก่อนหน้านี้ บริษัทได้ร่วมลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์ในเวียดนาม กำลังการผลิต 340 เมกะวัตต์ (เป็นส่วนของ GULF 49% คือ 167 เมกะวัตต์ ส่วนอีก 51% เป็นของนักธุรกิจในเวียดนาม) เงินลงทุนทั้งหมด 650 ล้านดอลลาร์หรือราว 2 หมื่นล้านบาท โดยเป็นส่วนเงินลงทุนของ GULF ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 30 เมกะวัตต์ จะเปิดดำเนินการเดือนมิ.ย.2562 และโรงไฟฟ้าพลังลม 310 เมกะวัตต์ จะทยอยเปิดดำเนินการ 30 เมกะวัตต์แรกในปี 2563 และอีก 280 เมกะวัตต์จะทยอยเปิดไปถึงปี 2566 คาดรายได้จากโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์จะอยู่ประมาณ 70 ล้านบาทต่อปี และโรงไฟฟ้าพลังลมจะทำรายได้ 140-150 ล้านบาทต่อปีต่อ 30 เมกะวัตต์
บริษัทฯมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นลำดับ ณ สิ้นไตรมาส 2/2561 กำลังการผลิตไฟฟ้า 2.12 เมกะวัตต์ โดยปี 2561 มีโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ 3 โครงการคือ GNC 89 เมกะวัตต์ ได้ COD แล้วเมื่อ มี.ค.2561, GBL&GBP 133 เมกะวัตต์เริ่ม COD เดือนก.ย.2561 และ พ.ย.2561 ทำให้กำลังการผลิต ณ สิ้นปี 2561 จะเป็น 2,300 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไฟฟ้าจะเพิ่มเป็นประมาณ 6,500-6,600 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567
ราคาเป้าหมายเฉลี่ยใน IAA Consensus อยู่ที่ 72 บาท (แนะนำซื้อ 5 ราย, ซื้ออ่อนตัว 1 ราย, ถือ 1 ราย, ขาย 1 ราย)