“คิงส์ฟอร์ด” วางแนวรับ 1,685 – 1,690 จุด แนะ MAJOR-ADVANC

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด มองตลาดหุ้นวันนี้ แนวรับ 1,685 – 1,690 จุด หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่ง 7.50% ฉุดตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงแรงแนะทยอยซื้อช่วงอ่อนตัว หุ้นแนะนำวันนี้ MAJOR-ADVANC

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ วางแนว Filter แนวรับ SET ที่ 1,685 – 1,690 จุด ยืนได้ถือพอร์ตต่อ โดยมีแนวต้าน 1,710 จุด แนะนำทยอยซื้อช่วงดัชนี่อ่อนตัว KBANK, BBL, SCB, PTT, AOT ,ADVANC, CPALL, HMPRO, BDMS, AMATA, WHA ปัจจัยบวกจากคาดกำไรฟื้นตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจ

ด้านต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยวานนี้ 8.4 พันล้านบาทและซื้อพันธบัตรไทย 7.3 พันล้านบาท จากมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว และฐานะการคลังของประเทศแข็งแกร่ง ส่งผลให้ได้รับผลกระทบน้อยหากเฟดเริ่มลดงบดุล

วันนี้ติดตามการประชุม ศบค. ออกแนวทางปฏิบัติในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์เพื่อควบคุมการระบาด

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -1.47%, S&P500 -1.81%, Nasdaq -2.10%กลุ่มเทคโนโลยี เช่น Apple, Alphabet, Meta, Microsoft, Amazon ปรับลดลงมากกว่า -1% หลังรายงานดัชนี CPI สหรัฐ ม.ค. เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 7.50% กังวลเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าคาด ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.035%

ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.21% ถูกกระทบจากรายงานเงินเฟ้อสหรัฐ ส่งผลให้ German Bond Yield 10 ปี เพิ่มขึ้น 5 bps อยู่ที่ 0.265% ขณะที่หุ้นเครติสวิส -6.02% ผิดหวังผลประกอบการ Q4/64 , Unilever -1.29% แม้ว่ารายงานกำไรดีกว่าคาด แต่คาดรายได้จะถูกกระทบจากราคาสินค้าแพงขึ้นจากเงินเฟ้อ

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ MAJOR (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 24.80 บาท) คาดแนวโน้มผลประกอบการหลัก 4Q64 ฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ จากการกลับมาเป็นให้บริการโรงหนังตั้งแต่เดือน ต.ค.64 ประกอบกับมีหนังที่ทำรายได้สูงหลายเรื่อง ส่วนรายได้จาก Concession ขายอาหารเครื่องดื่มฟื้นตัวตามจำนวนผู้ใช้บริการ การขายผ่านช่องทางค้าปลีกและ Delivery

สำหรับแนวโน้มปี 65 พลิกกลับมากำไรบนสมมติฐานไม่มีการล็อกดาวน์ในประเทศอีก บวกกับจำนวนหนังฟอร์มใหญ่ที่จะเข้าฉายจะมีมากกว่าปีก่อน โดยบริษัทมีแผนขยายโรงหนังในปีนี้ 20-30 Screen แม้ยังต้องเว้นระยะห่างที่นั่งแต่จะเพิ่มความถี่รอบฉายแทน นอกจากนี้จะเดินหน้าขยายช่องทางค้าปลีก Popcorn ผ่าน 7-11 ทุกสาขาตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นไป

หุ้น ADVANC (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 240.00บาท) แม้กำไรสุทธิปี 64 ย่อเล็กน้อยสู่ 26,924.47 ลบ. (-2.72%) แต่รายได้รวมฟื้นสู่ 181,333 ลบ. (+4.88%) แรงหนุนจากกำลังซื้อ, ARPU ฟื้นตัว, ม.กระตุ้นภาครัฐ และการแข่งขันที่แนวโน้มลดความรุนแรงลงในธุรกิจหลัก ขณะที่ Fixed Board Band ยังเติบโตหลัก 2 Digits การแสวงหารายได้จากช่องทางอื่นเพื่อกระจายความเสี่ยง และโอกาสธุรกิจ Data Center ที่เซ็นสัญญาร่วมกับ GULF ไป รวมถึงโครงการใหม่ ๆ อีกมากจากพันธมิตรทั้ง GULF และ SCB คาด Dividend Yield ปี 65 ที่ 3.22% อย่างไรก็ตามให้ระมัดระวังการเก็งกำไรช่วง XD 18 ก.พ. โดยจะจ่ายเงินปันผล 4.24 บาทต่อหุ้น (รวมปี 64 จ่ายเงินปันผล 7.69 บาทต่อหุ้น)