HoonSmart.com>> “เคซีอี อีเลคโทรนิคส์” โกยกำไรปี 64 จำนวน 2,426 ล้านบาท โตทะลัก 115% อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อน กวาดยอดขาย 14,937.8 ล้านบาท พุ่ง 29.59% ด้านต้นทุนลดลง หนุนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น
บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2564 มีกำไรสุทธิ 2,426.28 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.06 บาท เติบโต 115.33% จากงวดปี 2563 กำไรสุทธิ 1,126.79 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.96 บาท
บริษัทฯ มีกําไรปกติในปี 2564 มีจํานวน 2,272.2 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจํานวน 189.7 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (one-off) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับมาตรการป้องกัน COVID จํานวน 35.6 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับกําไรปกติของปีที่แล้ว จํานวน 1,093.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 107.7% จากปีก่อน
ผลกําไรจากการดําเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นผลจากการเติบโตของรายได้ เพราะมีการขายสูงขึ้นและต้นทุนต่ำลง ทําให้อัตรากําไรขั้นต้นสูงขึ้น อีกทั้งการปรับเพิ่มราคาขายสินค้าในไตรมาสสอง การอ่อนค่าของเงินบาท และราคาตลาดทองแดงที่ปรับตัวลดลง ช่วยผลักดันให้ผลการดําเนินงานของกลุ่มปรับตัวดีขึ้นในที่สุด
กลุ่มบริษัทมียอดขายรวมจํานวน 14,937.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.59% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ยอดขายในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 25.93% เป็นจํานวน 468.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ รายได้ขายที่สูงขึ้นจากปีก่อนเป็นผลจากปริมาณขายมากขึ้น 23.35% ตามผลผลิตที่เพิ่มจํานวนหลังการฟื้นตัวของคําสั่งซื้อที่เข้ามามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากการเปลี่ยนแปลงในสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ Product mix โดยเฉพาะของ Special Grade PCB อีกทั้งจากการที่ราคาทองแดงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี ทําไห้มีการปรับราคาขายของ PCB เพิ่มขึ้น โดยมีผลใช้ตั้งแต่เดือนพ.ค.2564
นอกจากนั้น การอ่อนค่าของเงินบาทต่อเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในงวดนี้ส่งผลให้มีการรับรู้รายได้เงินบาทเพิ่มขึ้น 393.63 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีก่อน อย่างไรก็ดี ยอดขายในปีนี้ยังได้รับผลกระทบเชิงลบจากรายได้ที่ยังไม่รับรู้ในการขายแบบ consignment เป็นจํานวนถึง 470.1 ล้านบาท จากคําสั่งซื้อที่ค้างส่งเป็นจํานวนมาก ณ สิ้นปี จากปัญหาการขาดแคลน Chip และจากความล่าช้าในการส่งสินค้าเนืองจากปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์
การแพร่ระบาดระลอกสามของ COVID-19 ทําให้มีมาตรการการควบคุมการระบาดที่เข้มข้นซึ่งส่งผลกระทบต่อการดําเนินงานเป็นอย่างมากในไตรมาสสาม อีกทั้งยังมีผลให้การติดตั้งเครื่องจักรในการขยายกําลังการผลิตของ HDI ล่าช้าไปอีกด้วย
ด้านต้นทุนขายสินค้าลดลงเป็นอย่างมาก คิดเป็น 73.4% จาก 78.2% ในปี 2563 ส่งผลให้อัตรากําไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 26.6% ต่อยอดขายจาก 21.8% ในปีก่อน