HoonSmart.com>> “บีซีพีจี” ทุ่มงบ 6,096 ล้านบาท ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) กำลังผลิตติดตั้ง 357 เมกะวัตต์ รวมโครงการอยู่ระหว่างพัฒนาหนุนกำลังผลิตรวมแตะ 469 เมกะวัตต์ ช่วยต่อยอดและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ สร้างความสามารถในการแข่งขันและสร้างโอกาสในการเติบโตในระยะยาว พร้อมแต่งตั้ง “นิวัต อดิเรก” นั่ง CEO คนใหม่ มีผล 1 ก.พ.65
นายนิวัติ อดิเรก รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีซีพีจี (BCPG) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2565 มีมติอนุมัติวงเงินสำหรับการลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในวงเงินไม่เกิน 5,080 ล้านเหรียญไต้หวัน หรือประมาณ 6,096 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 357 เมกะวัตต์ และเมื่อรวมกับโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจะทำให้บริษัทฯ มีการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไต้หวันที่มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 469 เมกะวัตต์
บริษัทฯ เล็งเห็นว่าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เป็นโครงการที่มีศักยภาพ โดยมีสัญญารับซื้อไฟระยะยาวในอัตราค่าไฟฟ้าคงที่กับ Taiwan Power Company ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่ควบคุมการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) การลงทุนดังกล่าว จะช่วยต่อยอดและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทฯ เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของบริษัทฯ ในระยะยาว
“การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไต้หวันเป็นหนึ่งในแผนกลยุทธ์ที่สำคัญของบริษัทฯ ซึ่งสามารถต่อยอดจากการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้เมื่อรวมกับโครงการในประเทศญี่ปุ่นที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 117 เมกะวัตต์ จะทำให้บริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกรวม 586 เมกะวัตต์ คิดเป็นเงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 45,000 ล้านบาท” นายนิวัติกล่าว
ทั้งนี้ โครงการลงทุนพัฒนาในไต้หวันดังกล่าว คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2565 – 2567 และสามารถเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2565 – 2568
คณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้มีมติแต่งตั้งนายนิวัติ อดิเรก ให้ดำรงตำแหน่งประธานเเจ้าหน้าที่และกรรมการผู้จัดการใหญ๋ และนายภูวดล สุนทรวิภาต ดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2565 เป็นต้นไป
บล.โนมูระ พัฒนสิน มีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในครั้งนี้ โดยเป็นการลงทุนที่จะทำให้ BCPG มีกำลังการผลิตที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดและจะช่วยหนุนกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนที่จะตามมาอีกมากในเร็วๆนี้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 19.60 บาท โดย BCPG ยังเป็นหุ้นในกลุ่ม Green Energy ที่ยัง laggard โดยมีพี/อี เพียง 12 เท่า เทียบค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ราว 25-30 เท่า