HoonSmart.com>>บล.คันทรี่ฯคาดตลาดหุ้นสัปดาห์แรกของปีอยู่ที่ 1,645 – 1,660 จุด ไวรัสโควิดโอมิครอนมีทั้งบวกและลบ ไทยพบผู้ติดเชื้อเร่งตัว โครงการช็อปดีมีคืนหนุนค้าปลีก BJC,CPALL,CRC,DOHOME,HMPRO, ILM ร้านอาหาร CENTEL, M, MINT ราคาหมูแพงคาดสูง 3-6 เดือน บวกต่อ CPF แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 26 บาท BBL คาดกำไรไตรมาส 4/64 โตสูงกว่า 165% จากปีก่อน มีเงินปันผล 4.8%
บล.คันทรี่กรุ๊ป คาดตลาดหุ้นสัปดาห์แรกของการลงทุนในปี 2565 กรอบ SET อยู่ที่ 1,645 – 1,660 จุด เรื่องของไวรัสโอมิครอนมีปัจจัยบวกและปัจจัยลบผสมผสานกัน คือการเสียชีวิตค่อนข้างต่ำ แต่ผู้ติดเชื้อในไทยเร่งตัว ตลาดกังวลกับสถานการณ์การระบาด อย่างไรก็ตามมีโครงการช็อปดีมีคืนได้เริ่มมาตรการตั้งแต่ 1 ม.ค. มองเป็นบวกต่อกลุ่มที่ขายสินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
อาทิ ค้าปลีก (BJC, CPALL, CRC,DOHOME,HMPRO,ILM) ร้านอาหาร (CENTEL,M, MINT) (2) ประชุม OPEC+ ในวันจันทร์ ตามแผนของที่ประชุมจะมีการใส่กำลังการผลิตเข้ามาราว 4 แสนบาร์เรล / วัน เชื่อว่าผลกระทบต่อราคาน้ำมันจำกัด แต่หากปรับเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่า 4 แสนบาร์เรล / วัน จะเป็นลบกับราคาน้ำมัน
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันพฤหัสบดี อาทิ PMI ภาคบริการจาก ISM Bloomberg คาดที่ 67.2 และวันศุกร์สำหรับภาคแรงงานสหรัฐ Bloomberg คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 4.1 แสนตำแหน่งและอัตราการว่างงานที่ 6% เชื่อว่าตลาดอยากเห็นตัวเลขที่ไม่ร้อนแรงจนเกินไปเพื่อให้เฟดยังไม่เร่งรีบใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดจนเกินไป
ส่วนปัญหาราคาหมูแพง คาดว่าราคาจะยังยืนระดับสูงเช่นนี้ไปอีก 3-6 เดือนจากนั้นจะเริ่มเห็นอุปทานใหม่เข้ามา มีหุ้นได้ประโยชน์ อาทิ CPF,TFG แต่เป็นลบกับหุ้นร้านอาหาร (CENTEL,M, MINT) ต้นทุนที่จะสูงขึ้นกดดันอัตรากำไรขั้นต้น
กลยุทธ์การลงทุนแนะหุ้นได้ประโยชน์จากราคาหมูปรับตัวขึ้น อาทิ CPF,TFG (Laggard จะเป็น CPF) ส่วนนักลงทุนระยะกลางยังแนะถือหุ้นต่อไปได้และอาจสะสมเพิ่มใน Laggard Play อาทิ BBL,BJC, CPALL,M,MAJOR,PTG
แนะนำซื้อ CPF ราคาเป้าหมาย 26 บาท ราคาหมูเฉลี่ยไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 77.3 บาท / กิโลกรัม และซื้อ BBL ราคาเป้าหมาย 162 บาท คาดกำไรในไตรมาสที่ 4 จะเติบโตสูง165%YoY (-8%QoQ) จากสำรองหนี้ฯ ที่ลดลงและรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่สูงขึ้น ในปี 2565 เน้นกลยุทธ์การเติบโตในต่างประเทศ และพัฒนาการให้บริการผ่านดิจิตอลแบงกิ้งสร้างรายได้เพิ่มราคาหุ้นยังไม่แพง ซื้อขายที่เพียง 0.4 เท่าของ PBVปีนี้ (-1.5SD ต่อค่าเฉลี่ยย้อนหลัง) และอัตราเงินปันผลราว 4.8% ในปี 2565