HoonSmart.com>> “ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” เดินหน้าลงทุนธุรกิจเฮลท์แคร์ต่อเนื่อง ส่งบริษัทลูกเข้าซื้อหุ้น 25% “ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี” ผลิตและสกัด CBD จากกัญชง หวังต่อยอดธุรกิจเฮลท์แคร์
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า หลังเดินหน้าธุรกิจตามแผน ORIGIN NEXT LEVEL ด้าน Business Expansion ขยายสู่ธุรกิจใหม่ โดยจัดตั้งบริษัทออริจิ้น เฮลท์แคร์ เป็นบริษัทหลักในการดำเนินกลุ่มธุรกิจบริการสุขภาพ (Healthcare) ล่าสุด บริษัทได้นำออริจิ้น เฮลท์แคร์ เข้าลงทุนในบริษัทไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการผลิต และสกัด CBD จากกัญชง ที่มีพันธมิตรแข็งแกร่งจากทั้งออสเตรเลีย แคนาดา และสหรัฐอเมริกา
ภายหลังการจดทะเบียนเพิ่มทุนของไทย ลีฟ บริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วน 25% ของหุ้นสามัญทั้งหมด รองรับการขยายตัวของตลาดผลิตภัณฑ์จากสารสกัด CBD จากกัญชงที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“สารสกัด CBD จากกัญชงถือเป็นเมกะเทรนด์ของโลกที่น่าจับตามอง เนื่องจากมีสรรพคุณทางการแพทย์และสามารถนำมาต่อยอดกับผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย เฉพาะในสหรัฐอเมริกา คาดว่ายอดขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสารสกัด CBD จากกัญชงจะมีมูลค่ากว่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐในปีหน้า มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย หรือ CAGR ที่ 27% ในไทยก็เองเริ่มเห็นแนวโน้มการนำมาประยุกต์ใช้กับหลากหลายผลิตภัณฑ์มากขึ้น เราจึงมองหาช่องทางต่อยอดธุรกิจนี้ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเฮลท์แคร์ของเราในระยะยาว” นายพีระพงศ์ กล่าว
ปัจจุบันบริษัท ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสารสกัด CBD จากกัญชง เช่น น้ำมัน CBD จำหน่ายให้แก่บริษัทยา บริษัทอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีความต้องการใช้น้ำมัน CBD เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ การต่อยอดสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของตัวเอง ขณะที่ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จะนำสารสกัด CBD มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจกลุ่มเฮลท์แคร์ในหลากหลายด้าน เช่น ใช้เป็นส่วนผสมเครื่องสำอางในธุรกิจความงาม ใช้เพื่อช่วยส่งเสริมการนอนหลับ เมื่อมีการทำ Sleep Test คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ CBD ในปี 2566
ด้านนายยิ่งยศ จารุบุษปายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจนำเข้าเมล็ดพันธุ์และเพาะปลูกกัญชง และได้รับอนุมัติแบบก่อสร้างโรงงานสกัด CBD ตามมาตรฐาน GMP Pic/s (Pharmaceutical) จากทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว และได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังได้รับการเข้าร่วมลงทุนจากพันธมิตรหลากหลายกลุ่มทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงการเข้าลงทุนจากเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ คาดว่าจะมีการแถลงข่าวทิศทางธุรกิจร่วมกับพันธมิตรทั้งไทยและต่างชาติทั้งหมดในวันที่ 13 ธ.ค.นี้
“เรามีพันธมิตรทั้งด้านการเพาะปลูก การสกัด การวิจัยและพัฒนา การดำเนินงาน ไปจนถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ ด้วยเครือข่ายที่รอบด้านทั้งในไทยและระดับสากล จะนำไปสู่โอกาสการเติบโตที่สำคัญ โดยทั้งหมดจะมารวมตัวกันในงานแถลงข่าวของเราในเร็วๆ นี้ นายยิ่งยศ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 86 โครงการ (ข้อมูล ณ สิ้นไตรมาส3/2564) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ดิ ออริจิ้น (The Origin) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge),นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill),เคนซิงตัน (Kensington) แฮมป์ตัน (Hampton) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 137,000 ล้านบาท
2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง ภายใต้บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัดเช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ อาคารสำนักงาน 3.ธุรกิจบริการ เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร