HoonSmart.com>>ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ โชว์ผลงาน 9 เดือน กำไรสุทธิ 1,624.72 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.71 บาท ซีอีโอ เดินหน้าขยายธุรกิจ ทั้งในส่วนของธุรกิจประกันภัย และการลงทุนอื่น ๆ หลังจัดทัพใหม่ยกฐานะขึ้นเป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ ขณะที่บอร์ดไฟเขียวตั้งบริษัทใหม่ลุยลงทุนธุรกิจประกันภัย ตั้งเป้าปี 65 เล็งซื้อบริษัทประกันภัยเพิ่ม
ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TIPH) และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย (TIP) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิรวม 1,624.72 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.71 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 1,609.99 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 2.68 บาท
ส่วนรายได้ บริษัทฯมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 19,397.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 17% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับในทุกผลิตภัณฑ์ มีกำไรจากการลงทุนรวม 722.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผลจากบริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อขยายฐานการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคต ดร. สมพร กล่าวว่า ในช่วงปี 2564-2565 บริษัทกำลังศึกษาแนวทางในการเข้าซื้อกิจการของบริษัทที่ประกอบธุรกิจสนับสนุนธุรกิจประกันภัย 2-3 ธุรกิจ โดยตั้งเป้าบริษัทที่ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัย และบริษัทที่ประกอบธุรกิจสำรวจภัยและจัดการสินไหม รวมทั้งการศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งบริษัทประกันภัยใหม่ หรือการเข้าซื้อกิจการที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย เพื่อรองรับการขยายธุรกิจประกันภัยที่มีศักยภาพ เช่น Digital Insurance รวมถึงการ Spin Off หน่วยธุรกิจออกเป็นบริษัทใหม่
ทั้งนี้สำหรับการลงทุนในธุรกิจสนับสนุนประกันภัย ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัท ทิพย ไอเอสบี จำกัด (TIP ISB) เพื่อเป็นบริษัทเรือธง หรือ Flagship Company สำหรับลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่สนับสนุนธุรกิจประกันภัย (Insurance Supported Business)
“ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ยังยืนยันเป้าหมายเดินหน้าขึ้นสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงธุรกิจประกันภัยไปสู่มิติใหม่ ขยายขอบข่ายการดำเนินธุรกิจ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย ควบคู่ไปกับการมอบสิ่งดี ๆ คืนสู่สังคม รวมถึงสามารถสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้นในอนาคต” ดร.สมพร กล่าว