“ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส” เพิ่มแบงก์กรุงศรีบริการฝาก-โอนผ่านตู้บุญเติมได้แล้ว มั่นใจผลตอบรับดีดันยอดเติมเงินโต เผยเข้าถึงหมู่บ้านและตำบลจากจำนวนตู้กว่า 130,000 ตู้ทั่วประเทศเพิ่มความสะดวกผู้ใช้งาน ผู้บริหารย้ำรายได้ยังมาจากยอดเติมเงินเป็นหลัก คาดผลงานปีนี้ตามเป้า
นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) ผู้นำช่องทางการชำระเงินที่มีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศไทยผ่าน “ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม” เปิดเผยว่า บริษัทได้เพิ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาสำหรับบริการฝากเงินและโอนเงินผ่านตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติมเป็นธนาคารที่ 3 จากเดิมที่มีให้บริการอยู่ 2 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) และธนาคารกสิกรไทย (KBANK) โดยสามารถเริ่มใช้บริการดังกล่าวที่ตู้บุญเติมกว่า 130,000 ตู้ทั่วประเทศ ยกเว้นตู้ที่หน้าร้าน 7-11 ตั้งแต่วันนี้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานเช่นเดียวกับที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริการโอนเงินผ่านตู้บุญเติมมีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2 จำนวนรายการโอนเงินมีการเติบโตประมาณ 5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2561 แสดงให้เห็นความต้องการโดยเฉพาะลูกค้าในต่างจังหวัดที่มีตู้บุญเติม 105,978 ตู้ ขณะที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมี 15,541 ตู้โดยไม่รวมตู้ที่หน้าร้าน 7-11 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มอีก 1 ธนาคารเพื่อให้ครอบคลุมบริการโอนเงินมากที่สุด และน่าจะส่งผลให้ตู้บุญเติมเป็นตัวแทนธนาคาร คิดเป็น 80% ของตลาดธนาคารทั้งหมด ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ลูกค้าธนาคารรู้จักกับตู้บุญเติมมากขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มรายได้ของบริษัทแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าที่ใช้เงินสด ลูกค้าที่ไม่มีบัญชีธนาคาร หรือแอพพลิเคชั่นบนมือถือสามารถเข้าถึงการฝากและโอนเงินได้ง่ายและสะดวกสบายอีกด้วย
“การเพิ่มแบงก์กรุงศรีเชื่อว่าจะส่งผลให้จำนวนรายการโอนเงินเติบโตขึ้นกว่าที่ผ่านมา โดยลูกค้าของบุญเติมยังเป็นกลุ่มลูกค้าที่ใช้เงินสดเป็นหลัก และส่วนมากเป็นลูกค้าในต่างจังหวัดที่ไม่มีตู้สาขาของธนาคารและห่างไกลจากตัวเมือง แต่ตู้บุญเติมที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 130,000 ตู้เข้าไปถึงในระดับหมู่บ้าน และตำบล อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง และใช้ได้ทั้งเหรียญหรือธนบัตรได้ทุกรุ่นเริ่มต้นตั้งแต่ 1 บาท จนสูงสุดครั้งละ 5,000 บาท หรือสูงสุด 40,000 บาท/วัน/หมายเลขบัตรประชาชนของผู้ฝากหรือโอน โดยมีการยืนยันการฝากหรือโอนผ่านข้อความ SMS ดังนั้น จึงเป็นช่องทางที่เพิ่มความสะดวกสบายสำหรับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวได้เป็นอย่างดี”นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดเติมเงินจากการใช้บริการโอนเงินประมาณ 16% โดยการใช้บริการหลักยังมาจากการเติมเงินมือถือ 74% ขณะที่การใช้บริการเติมเงิน E-Wallet อยู่ที่ 4.2% การใช้บริการชำระบิล 3.5% ที่เหลือเป็นการใช้บริการอื่นๆ โดยมีฐานลูกค้ามากกว่า 25 ล้านเลขหมาย ทำให้ “ตู้บุญเติม” ยังเป็นผู้นำตลาดตู้เติมเงินออนไลน์ ซึ่งเชื่อว่าในปีนี้บริษัทสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้โดยเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา