HoonSmart.com>>จับตายอดผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มทะลุ 1 หมื่นราย/วัน บล.โนมูระฯเผยกลยุทธ์ถือหุ้น 50% เน้นกลุ่มปรับขึ้นเร็วกว่าตลาด โรงพยาบาลแนะ BDMS, BH, BCH กลุ่มไฟฟ้า, สื่อสาร, ส่งออก, โรงกลั่น บล.ดีบีเอสฯ มองเปิดรับนักท่องเที่ยว มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อเพิ่ม กลุ่มโรงพยาบาลจะกลับมาได้ประโยชน์ แนะนำซื้อ BDMS, BCH , CHG, RJH ด้าน EKH รับอานิสงส์เปิดประเทศ หนุนดีมานด์ลูกค้าจีนใช้บริการ IVF คึกคัก “หมออำนาจ เอื้ออารีมิตร ” มั่นใจรายได้ทั้งปี โตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 40%
บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำให้ถือหุ้น 50% จากสถานการณ์ Third Wave กลับมาน่ากังวล หลังยอดผู้ติดเชื้อเริ่มขยับขึ้น ขณะที่ต่างประเทศไม่มีปัจจัยใหม่ แนะนำให้ถือหุ้น 50% คงพอร์ตหลักกลุ่มที่จะปรับขึ้นได้สูงกว่าตลาดได้แก่ ได้แก่ โรงไฟฟ้า (GPSC, GULF, BCPG) โรงพยาบาล (BDMS, BH, BCH) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC) ส่งออก (KCE, HANA, TU) โรงกลั่น (TOP, PTTGC)
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) คาดเมื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น เป็นไปได้ว่าจะกลับมามีผู้ติดเชื้อเพิ่ม กลุ่มโรงพยาบาลจะกลับมาได้ประโยชน์ แนะนำซื้อ BDMS, BCH, CHG, RJH
นักวิเคราะห์มองบวกหุ้นโรงพยาบาลส่วนใหญ่ เนื่องจากแนวโน้มไตรมาสที่ 3/2564 คาดกำไรทำสถิติสูงสุด จากรายได้การให้บริการโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มดีต่อเนื่องในปี 2565 จากการเปิดประเทศให้ลูกค้าต่างประเทศเข้ามาใช้บริการได้มากขึ้น
นักวิเคราะห์บล.หยวนต้าเลือก BDMS เป็นหุ้นเด่น ประเมินมูลค่าพื้นฐานในปี 2565 ที่ 27.90 บาท คาดไตรมาสที่ 3 มีกำไรปกติอยู่ที่ 2,013 ล้านบาท เติบโต 39% จากไตรมาสที่ 2 และเพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลักๆมาจากรายได้เกี่ยวกับการให้บริการโควิด เนื่องจากการระบาดระลอก4 ที่รุนแรง แนวโน้มรายได้ไตรมาสที่ 4 คาดกำไรปกติเติบโต 15% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน เป็น 6,971 ล้านบาท คาดปี 2565 กำไรปกติเติบโต 28% เป็น 8,891 ล้านบาท และมีโอกาสเติบโตสูงกว่าโรงพยาบาลส่วนใหญ่ ที่คาดว่าผลงานมีโอกาสปรับลงมาจากฐานที่สูง และคนไข้ต่างชาติจะกลับมา
นักวิเคราะห์ทั้ง 8 รายแนะนำซื้อ BDMS บล.โนมูระพัฒนสินให้ราคาเป้าหมายสูงที่สุด 29 บาท และบล.ทิสโก้ให้ต่ำที่สุด 26 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาในตลาดวันที่ 15 ต.ค.2564 ปิดที่ 22.90 บาท
ด้านนายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ (EKH) เปิดเผยว่า จากเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งมีประเทศจีน อยู่ 1 ใน 10 ประเทศเสี่ยงต่ำ ส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจผู้มีบุตรยาก (IVF) ลูกค้าชาวจีนจะกลับมาใช้บริการ IVF ต่อเนื่อง จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น สนับสนุนการเติบโตรายได้และกำไร อย่างมีนัยสำคัญ
“การที่ประเทศไทย เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ และโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย เป็นผลดีกับ EKH เชื่อว่า ลูกค้าชาวจีน จะกลับมาใช้บริการศูนย์ IVF อย่างคึกคัก ช่วงไตรมาส 4/2564 เป็นสัญญาณบวกต่อภาพรวมธุรกิจช่วงปลายปีของ EKH ที่จะเติบโตอย่างโดดเด่น” นายแพทย์อำนาจ กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจของ EKH ช่วง 9 เดือน ที่ผ่านมา มีสัญญาณการฟื้นตัวโดดเด่น จากรายได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 , การให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมถึงผู้เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ธุรกิจการรักษาพยาบาลทั่วไปในโรงพยาบาล อาทิ ศูนย์ฉุกเฉิน,ศูนย์กุมารเวช,ศูนย์สูติ-นรีเวช ยังมีผู้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าจะผลักดันรายได้ปี 2564 เติบโตไม่ต่ำกว่า 40% เทียบปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ เล็งเห็นความสำคัญของการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชน อนาคตมีแผนขยายส่วนงานด้านสุขภาพต่าง ๆ เพื่อรองรับการเข้าใช้บริการของประชาชน และเพื่อสร้างฐานธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งมากขึ้น ช่วยต่อยอดรายได้ให้มีความมั่นคงต่อไปในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตามองการเปิดประเทศอย่างใกล้ชิดว่า ดำเนินการตามแผนได้หรือไม่ และติดตามยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังการเปิดประเทศอีกด้วย