HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์พุ่ง 534 จุด ขานรับผลประกอบการไตรมาส 3/64 บริษัทจดทะเบียนออกมาดีกว่าคาด ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่บวก ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 14 ตุลาคม 2564 ปิดที่ 34,912.56 จุด เพิ่มขึ้น 534.75 จุด หรือ 1.56% จากการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียน ที่ดีกว่าคาดทั้งของ วอลกรีนส์ บูทส์ อัลลิอันซ์ ยูไนเต็ด เฮลธ์ แบงก์ออฟอเมริกาและบริษัทใหญ่อื่นๆ
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,438.26 จุด เพิ่มขึ้น 74.46 จุด, +1.71%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่14,823.43 จุด เพิ่มขึ้น 251.79 จุด, +1.73%
บริษัทจดทะเบียนรายงานผลการดำเนินงานมากขึ้นเมื่อวานนี้ ทั้งธนาคารใหญ่ บริษัทในดัชนีก่อนเปิดการซื้อขาย และมี 8 บริษัทในดัชนี S&P 500 รายงานผลการกำไรที่ดีกว่าคาด
นักวิเคราะห์จาก UBS Global Wealth Management ระบุว่า จนถึงตอนนี้บริษัทใหญ่มีความสามารถในการทำกำไรสูงขึ้นแม้เจอต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้น โดยดูได้จากยอดขายที่สดใส
หุ้นวอลกรีนส์ บูทส์ อัลลิอันซ์ ร้านขายยาขนาดใหญ่เป็ฯบริษัทในดัชนี Dow and S&P 500 ที่ปรับตัวขึ้นมากสุดโดยเพิ่มขึ้น 7.4% จากกำไรและรายได้ไตรมาส 4 ตามปีงบการเงินสูงกว่าคาด และยังประกาศเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน VillageMD ผู้ให้บริการแพทย์ปฐมภูมิ มูลค่า 5.2 พันล้านดอลลาร์
จากผลกำไรที่ดีกว่าคาด ส่งผลให้หุ้นยูไนเต็ด เฮลธ์เพิ่ม 4.2% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา 4.5%, เพิ่มขึ้น หุ้นมอร์แกน สแตนเล่ย์ 2.5% และหุ้นซิตี้ กรุ๊ปเพิ่มขึ้น 0.8% แต่หุ้นเวลลส์ ฟาร์โกลดลง1.6%
ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ลดลงมาที่ 1.519% ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม ได้หนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดย หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 2.02% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 2.59% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่ม 1.23% หุ้นทวิตเตอร์ เพิ่มขึ้น 1.58%หุ้ นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 2.17%
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการรายงานการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วของกระทรวงแรงงาน ที่ลดลง 36,000 ราย มาที่ระดับ 293,000 ราย และต่ำกว่า 300,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 และต่ำกว่า 318,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด
นักวิเคราะห์จาก Bankrate ระบุว่า เป็นสัญญานการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน
นอกจากนี้ดัชนีราคาผู้ผลิต ( producer price index) เดือนกันยายนที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดก็มีผลต่อภาวะการซื้อขายในทางบวก โดยดัชนีค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้า ต่ำกว่า 0.6% ที่นักวิเคราะห์คาด
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น 3.3% แม้กังวลต่อราคาพลังงานที่สูงขึ้น นักลงทุนคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องจะหนุนผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน แม้มีสัญญานเงินเฟ้อ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 465.92 จุด เพิ่มขึ้น 5.53 จุด, +1.20%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,207.71 จุด เพิ่มขึ้น 65.89 จุด, +0.92%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,685.21 จุด เพิ่มขึ้น 87.83 จุด, +1.33%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,462.72 จุด เพิ่มขึ้น 213.34 จุด, +1.40%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 81.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบ 7 ปีส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561