STP&L เพิ่มลงทุนกองทรัสต์ KTBSTMR สัดส่วนไม่เกิน 30% ชูยีลด์สูง 7%

HoonSmart.com>> “เอสที พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ โลจิสติกส์” เจ้าของสินทรัพย์ส่วนใหญ่ที่กองทรัสต์ KTBSTMR เข้าลงทุน มั่นใจสินทรัพย์มีศักยภาพ รายได้ค่าเช่าเติบโตต่อเนื่อง COVID-19 ไม่กระทบ เตรียมเพิ่มสัดส่วนลงทุนหน่วยทรัสต์จาก 5% เป็นไม่เกิน 30% มองผลตอบแทนน่าสนใจ 7% ต่อปี พร้อมให้ความเชื่อมั่นนักลงทุน ดูแลและบริหารสินทรัพย์ สร้างรายได้ค่าเช่ามั่นคงต่อเนื่องในระยะยาว ด้าน KTBSTMR เตรียมเปิดจอง 19-29 ต.ค.นี้

นางอาทิตยา ชาญวีรกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสที พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด หรือ STP&L ในฐานะเจ้าของโครงการเอสทีบางบ่อ โครงการเอสทีบางปะอิน โครงการซัมเมอร์ฮับ และโครงการซัมเมอร์ฮิลล์ เปิดเผยว่า ในการดำเนินงานของทรัพย์สินประเภทคลังสินค้า/โรงงานให้เช่า ในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้มีผลกระทบต่อการนำทรัพย์สินออกให้เช่า เนื่องจากผู้เช่ายังสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างปกติ อีกทั้งบางรายได้รับผลบวกจากสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากความต้องการในการจัดเก็บสินค้าประเภทอุปโภคมีมากยิ่งขึ้น สำหรับทรัพย์สินประเภทสำนักงานและคอมมูนิตี้มอลล์

ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง และจากวิถี New Normal ที่บริษัทต่าง ๆ มีนโยบายทำงานจากบ้าน หรือ Work from Home ส่งผลให้แนวคิดการเช่าอาคารสำนักงานของบริษัทต่าง ๆ เปลี่ยนไปจากเดิมที่จะเช่าอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ กลายเป็นมองหาอาคารสำนักงานขนาดเล็กที่ตอบโจทย์การทำงานทุกรูปแบบแทน หนุนให้ความต้องการอาคารสำนักงานขนาดเล็กใจกลางเมือง ติดกับสถานีรถไฟฟ้ามีแนวโน้มสูงขึ้น และธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ ที่ร้านอาหารสามารถเปิดบริการรับประทานอาหารที่ร้านได้ ประกอบกับการปรับตัวเพิ่มบริการการจัดส่งอาหารถึงบ้าน หรือ Food Delivery ที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับธุรกิจมากขึ้น

โครงการเอสที บางบ่อ ซึ่งเป็นอาคารคลังสินค้าและโรงงานขนาดกลาง ถือเป็นขนาดที่ตอบสนองความต้องการของผู้เช่าเป็นอย่างดี อีกทั้งตั้งอยู่บนทางสายหลักที่สามารถเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมสายหลักไปยังภูมิภาคต่าง ๆ รวมถึงเข้าถึงศูนย์กลางขนส่งทางอากาศหรือทางน้ำที่สำคัญ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ ท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งสามารถลดต้นทุนการขนส่งของผู้เช่าได้

โครงการ เอสที บางปะอิน ซึ่งเป็นอาคารคลังสินค้าที่พัฒนาขึ้นตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) โดยมีขนาดกลาง-ขนาดใหญ่ ปัจจุบันมีผู้เช่าเหมารายเดียวทั้งโครงการ สิ้นสุดสัญญาเช่าในปลายปี 2573 และ ที่ตั้งของโครงการที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ถือเป็นจุดยุทธศาสาตร์ที่สำคัญเหมาะแก่การเป็นศูนย์กระจายสินค้าที่ดี ลดต้นทุนการขนส่งแก่ผู้เช่า อีกทั้งภายในนิคมอุตสาหกรรมยังมีระบบโครงสร้างพื้นฐาน เขื่อนป้องกันน้ำท่วม และบริการที่ได้มาตรฐานเพื่อรองรับความต้องการของผู้เช่าด้วย

โครงการ ซัมเมอร์ฮับ เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า ขนาดเล็ก-กลาง ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเทรนด์ธุรกิจแบบคล่องตัวในอนาคต โดยขนาดพื้นที่เช่าเหมาะสำหรับ SME และกลุ่ม Start-up ซึ่งมองว่า Remote Office คือเทรนด์ที่มาพร้อมกับโควิด และจะปฎิวัติวงการทำงานในอนาคต และโครงการซัมเมอร์ฮิลล์ เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ใจกลางพระโขนง ติดสถานีรถไฟฟ้า ตั้งอยู่ในศูนย์กลางแหล่ง CBD ติดถนนเส้นหลักสุขุมวิทและพระราม 4

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นสินทรัพย์ที่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เคทีบีเอสที มิกซ์ (KTBSTMR) เข้าลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงที่ดินและสิทธิการเช่าอาคาร งานระบบ สิ่งติดตั้งตรึงตราและอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องซึ่งได้ใช้ในการดำเนินกิจการ เป็นระยะเวลาประมาณ 29 ปี และมีข้อตกลงต่อสัญญาอีกประมาณ 1 ปี ซึ่งในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้ง 3 ระลอก นั้นไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องอัตราการเช่าพื้นที่แต่อย่างใด โดย ณ 30 มิ.ย.2564 ทั้ง 2 โครงการ ยังมีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 93% และมั่นใจว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ค่าเช่า ได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว

นางอาทิตยา กล่าวว่า เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทรัสต์ KTBSTMR ประกอบกับเมื่อพิจารณาถึงผลตอบแทนคาดหวังของกองทรัสต์ KTBSTMR ที่ประมาณ 7% ต่อปี ซึ่งมีความน่าสนใจในการลงทุนมากเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนประเภทอื่น ๆ ที่มีความเสี่ยงเทียบเคียงกันในสถานการณ์ปัจจุบัน คณะกรรมการ บริษัท STP&I จึงมีมติให้กลุ่มบริษัท STP&I รวมถึงบริษัทในเครือขยายสัดส่วนการเข้าลงทุนในฐานะเจ้าของทรัพย์สิน (Sponsor) กองทรัสต์ KTBSTMR เพิ่มจากเดิม 5% เป็นไม่เกิน 30% ของมูลค่ากองทรัสต์ (จำนวน 3,015 ล้านบาท) หรือลงทุนได้ในวงเงินรวมกันไม่เกินประมาณ 904.5 ล้านบาท สำหรับการลงทุนทั้งในตลาดแรก (IPO) และตลาดรอง (Secondary Market) โดยไม่รวมค่าบริการและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เป็นระยะเวลาประมาณ 1.5 ปี หรือจนกว่า KTBSTMR จะมีการเพิ่มทุนเพื่อลงทุนซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติม

“ด้วยคุณภาพของสินทรัพย์ประเภทอาคารคลังสินค้า/โรงงาน โครงการเอสทีบางบ่อ เอสทีบางปะอิน รวมถึงสินทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงาน และคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพและประกอบด้วยผู้เช่าที่มีคุณภาพแล้วเห็นว่า ทรัพย์สินสามารถสร้างรายได้ค่าเช่าที่มั่นคงได้ต่อเนื่อง ทางกลุ่ม STP&L จึงเห็นควรขยายสัดส่วนลงทุนในฐานะ Sponsor ในกองทรัสต์ KTBSTMR เพิ่มเติม เพื่อทำให้นักลงทุนที่เตรียมจองซื้อหน่วยทรัสต์ในวันที่ 19-29 ต.ค. มั่นใจได้ว่า STP&L ในฐานะ Sponsor จะดูแล และบริหารสินทรัพย์ เพื่อสร้างรายได้ค่าเช่าต่อเนื่องในระยะยาว ตลอดอายุสัญญาของกองทรัสต์ KTBSTMR และเพื่อให้สามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาวให้กับผู้ลงทุนในกองทรัสต์ KTBSTMR” นางอาทิตยา กล่าว