HoonSmart.com>> “อาม่า มารีน” ส่งบริษัทย่อยเข้าซื้อกิจการ “ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์” บริการขนส่งสินค้าปิโตรเคมีพื้นที่ภาคตะวันออก สัดส่วน 76% และซื้อหุ้น “ออโต้ โลจิส” ขนส่งรถยนต์ สัดส่วน 76% มูลค่ารวม 304 ล้านบาท ขยายธุรกิจครอบคลุมการขนส่งสินค้าหลากหลายมากขึ้น
บริษัท อาม่า มารีน (AMA) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2564 บริษัท เอ เอ็ม เอ โลจิสติกส์ (AMAL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยถือหุ้น 99.99% ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น โดยจะเข้าซื้อบริษัททีเอสเอสเค โลจิสติกส์ (TSSK) สัดส่วน 76% มูลค่า 273.76 ล้านบาทและซื้อหุ้นของบริษัท ออโต้ โลจิส สัดส่วน 76% มูลค่า 30.4 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 304 ล้านบาทและคาดว่าจะชำระเงินและโอนหุ้นได้ภายในวันที่ 1 ต.ค.2564 แบ่งเป็นชำระเงินสด 95% วันที่โอนหุ้นและชำระอีก 5% ภายในเดือนธ.ค.2564
ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2564 อนุมัติให้ AMAL เข้าซื้อหุ้น แต่เนื่องจากการเข้าทำรายการดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนหลายประการ บริษัทฯ จึงเปิดเผยข้อมูลการลงทุนในครั้งนี้เมื่อมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
บริษัท ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์จ ประเภทธุรกิจบริการขนส่งสินค้า โดยดำเนินการขนส่งก๊าซ ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ เช่น ขนส่งเม็ดพลาสติก และสินค้าปิโตรเคมีเป็นต้น ส่วนบริษัท ออโต้ โลจิส ดำเนินธุรกิจขนส่งรถยนต์ เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการให้บริการขนส่งสินค้าปิโตรเคมีในพื้นที่ภาคตะวันออกมายาวนานกว่า 20
สำหรับแหล่งเงินที่ใช้ในการลงทุนมาจากกระแสเงินสดของกิจการ และเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงิน ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานหลักของ AMA อย่างมีสาระสำคัญ
ส่วนผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับบริษัท ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจให้ครอบคลุมถึงการขนส่งประเภทสินค้าได้หลากหลายมากขึ้น ซึ่งสามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้การควบรวมกิจการจะช่วยให้ได้ประโยชน์จากขนาดที่ใหญ่ขึ้น (Economy of Scale) ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการ และการบริหารจัดการต้นทุน และเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรของบริษัทฯ และเพื่อสร้างผลตอบแทนให้แก่บริษัทฯ
ด้านบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) มองบวก เพราะจะทำให้ AMA ก้าวเข้าสู่การให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรมากขึ้น และคาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าในระยะยาวให้ AMA ได้ 1.00-1.50 บาท/หุ้น โดย TSSK เป็นผู้ขนส่งปิโตรเคมี ก๊าซ เม็ดพลาสติก ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งมีศักยภาพการเติบโตสูงกว่าธุรกิจเดิมของ AMA เราคาดว่าจะเริ่มรับรู้กำไรในปี 2565 หนุนกำไรสุทธิแตะระดับ 220-240 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.42-0.46 บาท ราคาปัจจุบันคิดเป็นพี/อี 13-14 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มโลจิสติกส์ที่ 25 เท่า แนะนำ “ซื้อ”