โดย … สุนันท์ ศรีจันทรา
นายปริญญา จารวิจิต อดีตกรรมการบริหาร บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 (DNA) ตัวการสำคัญคดีฉ้อโกงบิท คอยน์ นักลงทุนชาวฟินแลนด์ และอยู่ระหว่างหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ใส่นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้บริหารบริษัทโบรกเกอร์ โดยระบุว่า เป็นคนปั่นหุ้น DNA เมื่อปี 2560
นายประสิทธิ์ เพิ่งเปิดแถลงข่าว อ้างว่า ตัวเองเป็นแพะ ทั้งที่เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกนายปริญญาฉ้อโกง และได้เปิดเผยการซื้อขาย ถ่ายโอนหุ้น DNA ในกลุ่มนักลงทุน รวมทั้งกลุ่มคนที่ถูกพาดพิงว่า ร่วมกันฉ้อโกงและฟอกเงิน
หุ้น DNA จะถูกกลุ่มนายประสิทธิ์ปั่นหรือไม่ ตลาดหลักทรัพย์ และก.ล.ต.ต้องเข้าไปตรวจสอบ เพราะถือว่า นายปริญญาได้แจ้งเบาะแสมาแล้ว และเมื่อปี 2560 ราคาหุ้นตัวนี้ก็เคลื่อนไหวอย่างไม่ปกตินัก ราคาถูกลากขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่ 1.73 บาท
และราคาที่ถูกลากขึ้นไป จะเชื่อมโยงกับการนายประสิทธิ์ จัดหาหุ้น DNA จำนวน 345 ล้านหุ้นเสนอขายให้นายอาร์นี โอตาวา ซาริมาอ์ นักลงทุนชาวฟินแลนด์หรือไม่
เพราะหุ้น DNA ที่จัดหามาขายนั้น เป็นราคาที่สูงมาก เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ซึ่งผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่องหลายปี โดยหุ้นจำนวน 185 ล้านหุ้น เสนอขายในราคา 1.23 บาท และหุ้นจำนวน 160 ล้านหุ้น ขายในราคาหุ้นละ 1.50 บาท ซึ่งราคาที่ซื้อขายหุ้นทั้งสองล็อตจำนวนรวม 345 ล้านหุ้น เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 นั้น อาจใช้ราคาหุ้นที่ซื้อขายบนกระดานเป็นตัวอ้างอิง
ราคา DNA ล่าสุด ปิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ปิดที่ 0.50 บาท ทำให้นายอาร์นีขาดทุนหุ้นตัวเฉลี่ยเกือบ 1 บาทต่อหุ้น หรือขาดทุนประมาณ 300 ล้านบาท โดยมีนายประสิทธิ์ เป็นผู้จัดการการซื้อขายหุ้นระหว่างลูกค้ากับนายอาร์นี
ผู้บริหาร DNA พยายามกลบกระแสข่าว การพัวพันกับการฉ้อโกงนายอาร์นี และการฟอกเงิน แต่ผลการสอบสวนของตำรวจ ระบุชัดว่า คดีนี้ มีอดีตผู้บริหาร DNA ผู้ถือหุ้นใหญ่ DNA ในปัจจุบัน เข้าไปเกี่ยวพัน
และยังถูกนายปริญญา เปิดโปงถึงขบวนการปั่นหุ้น DNA ในปี2560 โดยมีนายประสิทธิ์ อดีตผู้บริหารบริษัทโบรกเกอร์ เป็นตัวจักรสำคัญ คนสำคัญปั่นราคาด้วย
เรื่องราวของหุ้นตัวนี้ ไม่ใช่ธรรมดาเสียแล้ว และมีปมความไม่ปกติที่ต้องสอบสวนกันยาว โดยเฉพาะการสร้างราคาหุ้น ซึ่งอาจไม่ได้เกิดขึ้นเพียงรอบเดียว เพราะนอกจากปี 2560 ตามที่นายปริญญา ออกมาแฉแล้ว ระหว่างวันที่ 3-8 สิงหาคมที่ผ่านมา ยังมีพฤติกรรมที่อาจเกิดการปั่นหุ้นอีก โดยราคาปรับตัวขึ้นจาก 38 สตางค์ เป็น 76 สตางค์ ทะยานขึ้น 100% เพียงช่วง 4 วันทำการ
ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจของหุ้น DNA คือ แม้จะถูกข่าวร้ายกระหน่ำ พัวพันกับขบวนการฉ้อโกงและฟอกเงิน รวมทั้งถูกเปิดโปงพฤติกรรมปั่น แต่ราคาหุ้นกลับวิ่งสวนปัจจัยลบต่าง ๆ ที่รุมกระหน่ำ โดยวันที่ 22 สิงหาคม ปิดที่ 0.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 11.11 %
เบาะแสการปั่นหุ้น DNA ที่นายปริญญานำมาตีแผ่นั้น ไม่ควรจะเป็นข้อมูลที่สูญเปล่า แต่ควรจะเป็นประเด็นที่ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ จะต้องเร่งตรวจสอบทันที แม้ที่ผ่านมา ระบบการตรวจสอบอาจหละหลวม จนไม่พบความผิดปกติใด ๆ และไม่มีมาตรการเตือนนักลงทุน หรือกำกับดูแล ทั้งที่ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอย่างไม่ปกติ เข้าข่ายการถูกปั่นราคาก็ตาม
นายประสิทธิ์ ถูกกองปราบปราม ออกหมายเรียกสอบปากคำ คดีฉ้อโกงเงินนายอาร์นีและฟอกเงินแล้ว ยังมีโอกาสถูกก.ล.ต. เรียกสอบพฤติกรรมที่เข้าไปพัวพันการปั่นหุ้น DNA ซ้ำอีกคดีก็ได้
นักลงทุนที่ถือหุ้น DNA ติดมือไว้ ต้องตัดสินใจแล้ว จะทำอย่างไรกับหุ้นฉาวโฉ่ตัวนี้ ถือไว้รอลุ้นอนาคต หรือตัดขายขาดทุนดี เพราะข่าวร้าย หุ้น DNA คงไม่จบง่าย