โดย… สุนันท์ ศรีจันทรา
มาตรการขึ้นเครื่องหมาย “C” ประเดิมนำมาใช้แล้ว หลังสิ้นสุดการแจ้งงบการเงินไตรมาสที่ 2 ปี2561 โดยมีบริษัทจดทะเบียนถูกแขวนป้ายกว่า 20 บริษัท และทำให้ราคาหุ้นทรุดตัวลงตามๆ กัน แต่ก็มีบางตัวที่ราคาหุ้นยังถูกลากขึ้น สวนป้ายเตือน
“C” คือเครื่องหมายที่เตือนให้ผู้ลงทุนระมัดระวังการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีความเสี่ยงด้านฐานะการเงิน งบการเงินหรือการประกอบธุรกิจ โดยเริ่มใช้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปีนี้
บริษัทจดทะเบียนกว่า 20 บริษัทที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย “C” เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า50%ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว ซึ่งนอกจากจะต้องซื้อขายหุ้นด้วยเงินสดแล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนถึงฐานะของบริษัทจดทะเบียนโดยตรง ซึ่งหากฝ่ายบริหารบริษัทไม่มีการแก้ไข
สถานการณ์บริษัทจดทะเบียนอาจเลวร้าย ถึงขั้นถูกแขวนป้าย “SP” หุ้นถูกพักการซื้อขาย และอาจเข้าข่ายถูกเพิกถอนการเป็นบริษัทจดทะเบียนได้
ดังนั้นจึงอย่ามองข้ามป้าย “C” อย่าคิดว่าไม่มีความหมาย เพราะเกี่ยวพันกับความอยู่รอดหรือความเป็นความตายของบริษัทจดทะเบียนได้
เครื่องหมาย “C” จะปรากฏอยู่บนตัวหุ้น จนกว่าจะมีการแก้ไขเหตุแห่งการถูกขึ้นเครื่องหมาย โดยจะต้องทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นสูงเกิน 50% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว โดยอาจเพิ่มทุนจดทะเบียน ถ้าสามารถเพิ่มทุนได้
แต่ขั้นตอนแรกที่บริษัทจดทะเบียนต้องดำเนินการคือ จัดประชุมเพื่อให้ข้อมูลและชี้แจงแนวทางการแก้ไขเหตุแห่งการถูกขึ้นเครื่องหมายต่อผู้ถือหุ้น นักลงทุนและผู้เกี่ยวข้องภายใน 15 วัน ต้องแจ้งวัน เวลา สถานที่จัดประชุมผ่านตลาดหลักทรัพย์ 7 วันล่วงหน้า และแจ้งผลการประชุมให้ตลาดหลักทรัพย์อย่างช้าภายในวันรุ่งขึ้น
รวมทั้งต้องจัดการนำเสนอต่อสารธารณ เพื่อรายงานความคืบหน้าการแก้ไขเหตุทุกไตรมาส จนกว่าบริษัทจะพ้นเหตุได้ โดยแนวทางการแก้ไขเหตุและความคืบหน้า จะต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบ
หุ้นกว่า 20 บริษัทที่มีถูกแขวน “C” ยิ่งกว่าโดนมาตรการกำกับการซื้อขาย เพราะถูกกำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสดโดยไม่มีการขีดเส้นเวลา จนกว่าจะแก้ไขส่วนของผู้ถือหุ้นให้สูงกว่า50%ของทุนจดทะเบียน ขณะที่ฝ่ายบริหารบริษัท มีภาระมากมาย เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาด้านฐานะทางการเงิน รวมทั้งกระบวนการจัดประชุมเพื่อชี้แจงข้อมูลกับผู้ถือหุ้น นักลงทุนทั่วไปและสาธารณชน
หุ้นที่ถูกแขวน “C” ไม่เพียงแต่จะหมดอนาคตลงชั่วคราวเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นหุ้นที่นักลงทุนจะต้องเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน
ใครที่ยังไม่มีหุ้นกลุ่ม “C” อยู่ในมือ ควรหลีกเลี่ยงลงทุน ส่วนคนที่ติดหุ้นกลุ่มนี้อยู่ ต้องหาทางบริหารจัดการ และเฝ้าจับตาการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด
เพราะหากฝ่ายบริหารบริษัทจดทะเบียนไม่สามารถแก้ไขปัญหาส่วนของผู้ถือหุ้นที่ตกต่ำได้ ผลประกอบการยังย่ำแย่ เช่นขาดทุนต่อเนื่อง แนวโน้มฐานะการเงินจะทรุดต่อไป ก่อนจะพัฒนาไปถึงขั้นวิกฤตทางด้านฐานะทางการเงินได้
มาตรการในการกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์จะเข้มข้นขึ้น จากป้าย “C” จะกลายเป็นป้าย “SP” และถูกประกาศเป็นบริษัทจดทะเบียนที่อาจเข้าข่ายถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์
นักลงทุนที่ติดหุ้น “C” จำนวนรวมกันน่าจะมีนับแสนคน และทุกคนต้องมีการบ้านหนัก จะวางแผนอนาคตอย่างไรกับหุ้นกลุ่ม “C” ที่ถือไว้
มั่นใจหรือไม่ว่า ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน จะฝ่าวิกฤต แก้ปัญหาส่วนของผู้ถือหุ้นได้หรือไม่ ถ้าไม่มั่นใจว่าจะแก้ไขปัญหาได้ นักลงทุนคงมีคำตอบแล้วว่า
จะทำอย่างไรดีกับหุ้นที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย “C” โดยไม่จำเป็นต้องรอจนผีถึงป่าช้า