HoonSmart.com>>บล.หยวนต้าฯยังคงแนะนำซื้อหุ้นแบงก์ ชู 4 ปัจจัยหนุน ราคาถูก สำรองไม่มากอย่างที่กลัวหากเศรษฐกิจเปิดได้ปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 ใกล้ประกาศเงินปันผลกลางปี ค้านใบสั่งธปท.แฮร์คัท เชียร์ KBANK ,KKP เหมาะลงทุนยาว ส่วนปันผลเด่น KKP คาดแจก 2.1% แบงก์ใหญ่คือ BBL
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ยังคงแนะนำซื้อหุ้นธนาคารพาณิชย์ หลังจากราคาปรับตัวขึ้นทั้งกลุ่มเช้าวันที่ 23 ส.ค.2564 เนื่องจากมีปัจจัยบวกหนุน เริ่มจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ต่ำลงเหลือ 1.7 หมื่นล้านบาท ถ้าลดลงเรื่อยๆ จะเห็นความคาดหวังเปิดเศรษฐกิจได้ปลายไตรมาสที่ 3 หรือต้นไตรมาสที่ 4 ทำให้แบงก์ตั้งสำรองไม่มากอย่างที่กลัวกันก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ดัชนีฟุตซี่ ( FTSE ) ได้เลือกหุ้นธนาคารกรุงเทพ (BBL) และธนาคารกสิกรไทย(KBANK) เข้าสู่การคำนวณรอบใหม่ มีผลวันที่ 17 ก.ย.2564 ส่งผลให้หุ้นทั้ง 2 แบงก์พุ่งแรง เนื่องจากเกินความคาดหมาย จากก่อนหน้านี้คาดว่าหุ้นในกระดานต่างประเทศ คือ BBL-F และ KBANK-F ถูกถอดออกจากการคำนวณ เพราะ NVDR ใกล้เต็มเพดาน เหลือช่องให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน แต่ปรากฎว่าหุ้นในกระดานหลักกลับได้เลือกเข้าไปแทนที่
ขณะเดียวกันแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์มากอย่างชัดเจน เพราะราคาถูก นับจากช่วงเกิดโควิด-19 ครั้งแรก ตั้งแต่เดือนม.ค. 2563 ราคาหุ้นแบงก์ลดลงมากกว่ากลุ่มท่องเที่ยว และสายการบิน เพราะกลัวเรื่องหนี้เสีย รวมถึงปัจจัยบวก กรณีสมาคมธนาคารไทย ยื่นจดหมายถึงธปท. คัดค้านการแฮร์คัท หากทำจริงจะมีภาระตั้งสำรองสูงมาก เพราะลูกหนี้บางส่วนได้รับรู้รายได้ไปแล้ว และประเด็นสุดท้ายคือภายในสัปดาห์นี้ ธนาคารใหญ่ 4 แห่งจะประกาศตัวเลขการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล
“คาดว่าแบงก์ที่จะจ่ายเงินปันผลเกิน 2% คือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) คาด 2.10% ถ้าแบงก์ใหญ่ที่จ่ายดี คือ BBL ส่วนนักลงทุนที่ชอบถือลงทุนนานๆ KBANK น่าสนใจที่สุด เพราะสินเชื่อขยายตัวต่อเนื่อง เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา สินเชื่อของ KBANK, KKP โต แม้ว่าจะเกิดโควิด ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่แบงก์อื่นชะลอการปล่อยสินเชื่อ ดังนั้นหุ้น KBANK และ KKP เหมาะถือลงทุนระยะยาว”บล.หยวนต้าระบุ