GCAP ลุ้นรายได้ต่อไตรมาสเกิน 100 ล้านในปีนี้

GCAP ลุ้นรายได้เพิ่มเป็นตัวเลขสามหลักหรือเกิน 100 ล้านบาทต่อไตรมาสภายในปีนี้ หลังปีก่อนลุยปล่อยกู้ 1,200 ล้านบาท เตรียมทบทวนเป้าสินเชื่อใหม่ปีนี้ที่เดิมอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท “สเปญ” ย้ำการเพิ่มทุนเป็นไปตามโรดแมป

นายสเปญ จริงเข้าใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จี แคปปิตอล (GCAP) เปิดเผยว่า ณ สิ้นไตรมาส 2 บริษัทปล่อยสินเชื่อใหม่ไปแล้ว 524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% เมื่อเทียบกับปีก่อน และคิดเป็น 40% ของเป้าหมายสินเชื่อใหม่ปีนี้ที่ 1,800 ล้านบาท โดยสินเชื่อใหม่ 70% เป็นสินเชื่อเช่าซื้อในภาคเกษตรกรรม ส่วนในช่วงไตรมาส 3 และ 4 คาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อจะเป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะในช่วงเดือนก.ย. จะเป็นช่วงของการเช่าซื้อเครื่องเกี่ยวนวดข้าวเพื่อเตรียมไว้สำหรับการเก็บเกี่ยวข้าวในเดือนต.ค.-พ.ย.นี้ รวมทั้งไตรมาส 4 ยังเป็นช่วงไฮซีซั่นของการปล่อยสินเชื่อสบายใจอันดามัน

“ตอนนี้ส่วนต่างดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่าย (NIM) ของเราอยู่ที่ 14% แต่หากเป็น NIM บวกกับค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่16% และเมื่อหักค่าใช้จ่ายลงทุนต่างๆแล้ว เรายังรักษาตัวเลขสองหลักเอาไว้ได้ ซึ่งเป็นระดับที่เราพอใจ ขณะที่ในช่วงไตรมาสที่ 3 หรือ 4 เราน่าจะได้เห็นรายได้รวมของ GCAP เพิ่มขึ้นเป็นเลขสามหลักต่อไตรมาส จากไตรมาส 1 ที่มีรายได้ 71 ล้านบาท และไตรมาส 2 ที่มีรายได้ 75 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากยอดปล่อยกู้ใหม่ในปีที่แล้วที่ 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านั้นที่อยู่ 300 ล้านบาท”นายสเปญกล่าว

สเปญ จริงเข้าใจ

อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาปรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้ โดยจะประกาศในช่วงสิ้นเดือนส.ค.นี้ ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับคุุณภาพสินเชื่อมากขึ้นเพื่อควบคุมหนี้เสียไม่ให้เกิน 3% รวมทั้งการเตรียมความพร้อมของทีมขาย เพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อในทุกผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะสบายใจตลาด ที่เป็นการปล่อยสินเชื่อให้แผงค้าใน 3 ตลาดใหญ่ คือ ตลาดไท ตลาดคลองเตย และตลาดปัฐวิกรณ์ ซึ่งมีโอกาสเติบโตอีกมาก เช่น ตลาดไทที่มีวงเงินหมุนเวียนต่อปีเป็นแสนล้าน แต่การปล่อยสินเชื่อยังไม่ถึง 2 ล้านบาทหลังบริษัทเข้าไปปล่อยสินเชื่อได้ 1 เดือน

สำหรับปีนี้ GCAP ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อสบายใจเกษตรการที่ 900 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 300-400 ล้านบาท ส่วนสินเชื่อสบายใจอันดามันตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 300 ล้านบาท สินเชื่อตลาดตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 300 ล้านบาท และสินเชื่อสบายใจพนักงานตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 300 ล้านบาท

นายสเปญ ยืนยันว่า GCAP ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องแหล่งเงินที่จะนำมาปล่อยกู้แต่อย่างใด โดยปัจจุบันบริษัทมีวงเงินกู้จากธนาคารออมสิน 220 ล้านบาท และอยู่ระหว่างเจรกับกับสถาบันการเงินอีก 2 แห่ง และนักลงทุนรายใหญ่อีก 1 ราย เพื่อเตรียมวงเงินไว้สำหรับการขยายพอร์ตสินเชื่อ ส่วนแผนการเพิ่มทุนของบริษัทนั้นเป็นการดำเนินการตามโรดแมป ซึ่งจะต้องมีการเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณา ขณะที่แผนการเพิ่มทุนดังกล่าวจะรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทให้อยู่ที่ระดับไม่เกิน 5 ต่อ 1 จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 4.2 ต่อ 1 อย่างไรก็ตาม ตนเองเห็นว่าสัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่เหมาะสมกับ GCAP น่าจะอยู่ที่ระดับ 8 ต่อ 1

“อย่างไรเราก็ต้องเพิ่มทุนเมื่อถึงเวลา แต่จะไม่เพิ่มตูมใหญ่ และยังไม่ทราบว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ขณะที่การเพิ่มทุนคราวนี้ จะทำให้เรามีเงินทุนเพียงพอสำหรับการขยายกิจในช่วง 3 ปีจากนี้”นายสเปญกล่าว