HoonSmart.com>>สศค.ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทย ปี 64 ลงเหลือขยายตัว 1.3% ผลจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ที่กระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การเดินทางระหว่างประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า สศค.ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 64 ลงเหลือขยายตัว 1.3% โดยมีช่วงคาดการณ์ 0.8% ถึง 1.8% เมื่อเทียบกับประมาณการครั้งก่อนที่ 2.3% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การเดินทางระหว่างประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย แต่ปรับเพิ่มเป้าหมายการส่งออกปีนี้เป็นขยายตัว 16.6% เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 11%
ส่วนในปี 65 คาดว่า GDP จะเติบโตเร่งตัวขึ้นเป็น 4-5% จากการประเมินว่าสถานการณ์โควิดจะดีขึ้น ทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจต่าง ๆ กลับมาทำได้มากขึ้น และการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากมีการเดินทางระหว่างประเทศได้
“คลังปรับลดคาดการณ์ตัวเลขจีดีพีปีนี้ลงมาค่อนข้างเยอะพอสมควร จากเหตุผลหลัก คือตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงอย่างมาก แต่การใช้จ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการส่งออกที่ยังช่วยพยุงเศรษฐกิจ ไม่ให้ติดลบ แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ยังมีความไม่แน่นอนสูงมาก” โฆษกกระทรวงการคลังกล่าว
ส่วนทิศทางหนี้สาธารณะที่คาดการณ์ว่าในสิ้นปีงบประมาณ 2564 จะอยู่ที่ระดับ 58.88% ต่อจีดีพีนั้น ที่ผ่านมา สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และ สศค.ได้หารือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดย สบน. ยืนยันว่ายังสามารถบริหารจัดการหนี้สาธารณะให้อยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ 60% ต่อจีดีพีได้ แต่หากมีการกู้เงินในรูปแบบต่าง ๆ จนส่งผลให้แตะหรือเกินกรอบวินัยการเงินการคลัง ก็สามารถปรับขยายเพดานได้ โดยเสนอไปยังคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมเป็นประธานให้พิจารณาขยายกรอบวินัยการเงินการคลังได้ตามสถานการณ์จำเป็น