เพซ ดีเวลลอปเมนท์เผยผลงานไม่ขาดทุนหนักเหมือนไตรมาส 1 เกิดจากรายได้รวมโต 18% โอนห้องชุดพักอาศัย เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก จำนวน 58 เรสซิเดนซ์ รวม 4,527 ล้านบาท เร่งโอนให้หมดภายในปีนี้ ส่วนรายได้ ดีน แอนด์ เดลูก้า ลดลงจากสหรัฐอเมริกา เผยเม.ย.ขายทรัพย์สินให้คิง เพาเวอร์ 14,000 ล้านบาท
บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE)เปิดผลงานไตรมาส 2/2561 มีกำไรสุทธิ 216 ล้านบาท ดีขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ที่ขาดทุนสุทธิถึง 4,087 ล้านบาท แต่ลดลง จำนวน 3,699 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,915 ล้านบาท รวมครึ่งปีมียอดขาดทุนสุทธิ 3,871 ล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3,339 ล้านบาท
ในไตรมาส 2 บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118 %จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 2,579 ล้านบาท เหตุผลหลักมาจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดพักอาศัย เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก จำนวน 58 เรสซิเดนซ์ มูลค่ารวม 4,527 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนที่มีการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ ห้องชุด 33 เรสซิเดนซ์ โดยมีแผนที่จะโอนกรรมสิทธิ์ที่เหลือ ให้ลูกค้าจนครบทุกห้องภายในปี 2561
ส่วนรายได้รวมของ ดีน แอนด์ เดลูก้า ในไตรมาส 2 จำนวน 568 ล้านบาท ลดลง 29% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีจำนวน 802 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ที่ลดลงจากร้านอาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ของ ดีน แอนด์ เดลูก้า ในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนในประเทศไทย และแอร์พอร์ต มียอดขายเติบโตขึ้นเนื่องจากการเปิดสาขาใหม่ 3 สาขา ได้แก่ ซอยสีลม 1 สนามบินสุวรรณภูมิ 1 และ สนามบินสุวรรณภูมิ 2
บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการดำเนินงาน ที่ไม่รวมการกลับรายการจากการด้อยค่าเงินลงทุน จำนวน 1,352 ล้านบาท คิดเป็น 25%ของรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 73% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 780 ล้านบาท โดยเหตุผลหลักมาจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดพักอาศัยในโครงการมหานครจำนวน 58 เรสซิเดนซ์ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2561 บริษัทฯ บริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน ( PP1) บริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี (PP3)และกรรมการท่านหนึ่ง ได้ทำสัญญาซื้อขายเพื่อจำหน่ายสินทรัพย์ของ PP1และ PP3 ให้กับบริษัท คิง เพาเวอร์ มหานคร (KPM) มูลค่ารวมทั้งสิ้น 14,000 ล้านบาท ทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดิน โรงแรม อาคารจุดชมวิว อาคารรีเทล คิวบ์ ปฏิมากรรม ภาพวาด ใบอนุญาตต่างๆรวมถึงสัญญาต่างๆที่เกี่ยวข้องในการประกอบธุรกิจของ PP1 (โรงแรม) และ PP3 (อาคารจุดชมวิว และอาคารรีเทล คิวบ์) ในโครงการมหานคร
วันที่ 9 เม.ย. 2561 บริษัทฯ PP1 และ PP3 ได้ทำสัญญา Investment Buy-Out Agreement กับ Apollo Asia Sprint Holding Company Limited และ Goldman Sachs Investments Holding (Asia) Limited ผู้ร่วมทุน) เพื่อซื้อหุ้นที่มีผู้ร่วมทุนถืออยู่ใน PP1 และ PP3 ทั้งหมด รวมเป็นเงินไม่เกิน 320 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือไม่เกิน 10,000 ล้านบาท