SCGP ขยายธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ รุกซื้อหุ้น Deltalab ในสเปน 85%

HoonSmart.com>> “เอสซีจี แพคเกจจิ้ง” ขยายการลงทุนธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ เข้าซื้อหุ้น Deltalab สเปน สัดส่วน 85% ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูงในยุโรป สอดคล้องเมกะเทรนด์ในการดูแลรักษาสุขภาพและแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เพิ่มพอร์ตสินค้ามูลค่าสูง เสริมศักยภาพการให้บริการและการเติบโตในระดับโลก

วิชาญ จิตร์ภักดี

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) เปิดเผยว่า SCGP ได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นเพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 85% ใน Deltalab, S.L ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Supplies and Labware) ที่จดทะเบียนในประเทศสเปน โดย SCGP จะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อธุรกรรมเสร็จสิ้นประมาณไตรมาสที่ 3 ปี 2564

การลงทุนครั้งนี้สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ในการดูแลรักษาสุขภาพและแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งส่งผลให้ความต้องการในการตรวจรวมถึงวินิจฉัยโรคสูงขึ้นทั่วโลก อุตสาหกรรมของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพและการแพทย์ (Healthcare and Medical) จึงเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีขนาดตลาดประมาณ 26 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8.1 แสนล้านบาท ในยุโรป และ 48 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Scientist uses multipipette during DNA research in scientific laboratory.

SCGP มุ่งมั่นให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรเป็นหลัก และเน้นขยายการลงทุนไปยังภาคธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคที่หลากหลาย การลงทุนใน Deltalab จึงเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งจะช่วยยกระดับฐานลูกค้าและผลิตภัณฑ์ของ SCGP รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการสู่ระดับโลก ตลอดจนการต่อยอดโอกาสในการบูรณาการองค์ความรู้ในการผลิตกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับแผนการขยายธุรกิจที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและการแพทย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วประมาณ 7-9% ต่อปี ในอนาคต

นอกจากนี้ ธุรกรรมดังกล่าวจะช่วยเสริมการเติบโตแบบยั่งยืนและสร้างมูลค่าเพิ่มของ SCGP ต่อไปในระยะยาวด้วย

“การเข้าลงทุนในตลาดด้านวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์นี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญของ SCGP ในการนำศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ และองค์ความรู้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์ ตลอดจนการผลิตกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้อง มาต่อยอดสู่ธุรกิจด้านสุขภาพและการแพทย์ (Healthcare and Medical Business) ทั้งความรู้ในการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ การใช้เทคโนโลยีการผลิตที่คล้ายกัน การวิจัยและพัฒนาในระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการแพทย์ ฯลฯ ที่สามารถส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันใหม่ ๆ เพื่อรองรับการใช้งานของผู้บริโภคที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว” นายวิชาญ กล่าว

สำหรับ Deltalab เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูงในยุโรป โดยมีผลิตภัณฑ์กว่า 15,000 หน่วยและปริมาณการผลิต 250 ล้านชิ้นต่อปี สินค้าที่โดดเด่นของ Deltalab ประกอบด้วย ถ้วยเก็บตัวอย่างของเหลวจากร่างกายและหลอดสูญญากาศสำหรับถ่ายเทตัวอย่าง (Liquid containers and tubes for vacuum system) หลอดเก็บตัวอย่างเลือด (Blood collection tube) หลอดขนาดเล็กสำหรับงานวิเคราะห์พันธุกรรม (Microtubes and flexible plates for real time PCR) หลอดปิเป็ตขนาดต่าง ๆ สำหรับถ่ายเท ตวงของเหลว (Various types of pipettes for liquid handling)

ตู้แช่แข็งเก็บวัคซีน และตัวอย่างทางพันธุกรรม (Cold (Cryogenic) storage system for vaccine and Molecular Biology) เป็นต้น โดยมีการส่งออกสินค้าหลายรายการไปยัง 125 ประเทศทั่วโลก ในปี 2563 Deltalab มีรายได้ 72.7 ล้านยูโร (ประมาณ 2,800 ล้านบาท) และมีสินทรัพย์อยู่ที่ 54.3 ล้านยูโร (ประมาณ 2,100 ล้านบาท)

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ มองการลงทุนครั้งนี้เป็นการลงทุนครั้งแรกของ SCGP ในผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์กลุ่มการแพทย์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เติบโตสูง และบริษัทตั้งเป้าเพิ่ม exposure โดยในปี 2563 Deltalab มีรายได้ประมาณ 2,800 ล้านบาท แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขกำไร เราประเมินกำไรส่วนเพิ่มที่ SCGP จะได้รับจากดีลนี้อย่างคร่าวๆ ได้ที่ประมาณ 3% โดยที่ยังไม่ได้รวม synergy จากดีลนี้เข้ามา

“เรายังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ SCGP ด้วยราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ที่ 58 บาท upside ของกำไรจะมาจากการเสร็จสิ้นดีล M&P ใน Duitan, Intan Group และ Deltalab ใน 3Q64 ซึ่งจะช่วยหนุนให้กำไรของ SCGP ปรับเพิ่มขึ้นได้อีก 6-10% (ยังไม่ได้นำมาใส่ไว้ในประมาณการของเรา)”บล.ไทยพาณิชย์ ระบุ