HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 237 จุด นักลงทุนมองเงินเฟ้อสูงขึ้นเป็นภาวะชั่วคราว เศรษฐกิจยังฟื้นตัวต่อเนื่อง หุ้นกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นหลังเฟดประกาศผลทดสอบ stress test รับมือกับภาวะกดดันได้ ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่บวก ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 25 มิถุนายน2564 ปิดที่ 34,433.84 จุด เพิ่มขึ้น 237.02 จุด หรือ 0.69% นักลงทุนมองว่าเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเป็นภาวะชั่วคราว เพราะเศรษฐกิจยังฟื้นตัวต่อเนื่อง
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,280.70 จุด เพิ่มขึ้น 14.21 จุด, +0.33%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,360.39 จุด ลดลง 9.32 จุด, -0.06%
ในสัปดาห์นี้ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.7% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ดัชนี DJIA เพิ่มขึ้น 3.4% ปรับขึ้นดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.4%
การปรับขึ้นของตลาดได้รับแรงหนุนจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลาง(เฟด)ให้ความสำคัญในการดำเนินนโยบาย
กระทรวงพาณิชย์ รายงาน ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 3.4% จากระยะเดียวกันของปีก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1990 และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.5% ต่ำกว่าที่ 0.6% ที่นักวิเคราะห์คาด
ดัชนี PCE ที่เพิ่มขึ้นสะท้อนว่า เศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วและแรงกดดันด้านราคาที่เพิ่มขึ้น
ดัชนี PCE ทั่วไปเพิ่มขึ้น 3.9% จากระยะเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.4% จาก 0.6% ในเดือนเมษายน
นักวิเคราะห์จาก Commonwealth Financial Network ระบุว่า ข้อมูลล่าสุดสนับสนุนความเห็นของเฟดที่ว่าเงินเฟ้อเป็นภาวะชั่วคราวและจะลดความวิตกว่ากำลังประสบกับเงินเฟ้อที่ถาวร และยังคงเป็นแรงหนุนสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป
สำหรับ การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคเดือนพฤษภาคมทรงตัวขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% รายได้ส่วนบุคคล ลดลง 2% ดีกว่ากว่าที่การลดลง 2.7% ที่นักวิเคราะห์คาด
มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 85.5 จาก 82.9 ในเดือนพฤษภาคม แต่ต่ำกว่า 86.5ที่นักวิเคราะห์คาด
หุ้นกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นหลังจากเฟดประกาศผลการทดสอบ stress test ว่า ธนาคารมีความสามารถรับมือกับภาวะกดดัน โดยธนาคาร 23 แห่งมีเงินทุนในระดับที่สูงกว่าขั้นต่ำที่กำหนดไว้รองรับกรณีเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งเปิดทางให้ธนาคารจ่ายเงินปันผลและซื้อหุ้นคืน
หุ้นเวลล์ ฟาร์โกเพิ่มขึ้น 2.6% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 1.9% หุ้นเจพี มอร์แกนเพิ่มขึ้นกว่า 1%
หุ้นไนกี้ เพิ่มขึ้น 15.5% หลังคาดการณ์ยอดขายทั้งปีสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ยังกังวลว่าจะมีการลด มาตรการกระตุ้นทางการเงินทั่วโลก และขานรับการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางของอังกฤษ โดยเพิ่มรายชื่อประเทศที่เดินทางเข้าไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน
ธนาคารกลางอังกฤษคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 3% ก่อนที่จะอ่อนตัวลง แต่ยังยืนยันว่าเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเกินกรอบเป้าหมาย 2% เป็นภาวะชั่วคราวและยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนปรน
ในเยอรมนี ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ -0.3 จุด จาก -6.9 ในเดือนก่อนหน้าขุ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 457.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.59 จุด, +0.13%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,136.07 จุด เพิ่มขึ้น 26.10 จุด, +0.37%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,622.87 จุด ลดลง 8.28 จุด, -0.12%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,607.97 จุด เพิ่มขึ้น 18.74 จุด, +0.12%
หุ้นอาดิดาสเพิ่มขึ้น 6.4% หลังจากหุ้นไนกี้ในตลาดสหรัฐฯ คาดการณ์ยอดขายทั้งปีสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 75 เซนต์ ปิดที่ 74.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 62 เซนต์ ปิดที่ 76.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล