SALEE มั่นใจปี’64 กำไรชัวร์ รายได้โต 10-15% ลุ้นครึ่งหลังยอดขายฟื้น

HoonSmart.com>> “สาลี่อุตสาหกรรม” ตั้งเป้ารายได้ปี 2564 โต 10-15%  ธุรกิจ OEM โตต่อเนื่อง สัดส่วนเพิ่มเป็น 40% ส่วนไตรมาส 2 รับยอดขายชะลอจากพิษโควิด  มองครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งแรก  มั่นใจปีนี้เห็นกำไร วางเงินลงทุนเพิ่มอีก 30-40 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรใหม่  เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน-ค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นลง 

นายสุพจน์ สุนทรินคะ กรรมการ และเลขานุการบริษัท บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม (SALEE) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าปี 2564 จะมีกำไรสุทธิได้ จากปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิที่ 0.62 ล้านบาท การเติบโตหลักมาจากธุรกิจรับจ้างผลิตและส่งออกไปต่างประเทศ (OEM) ในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่มียอดขายฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก คาดว่าสัดส่วนรายได้ของธุรกิจดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 40% จากเดิม 33%

ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ 1,201.89 ล้านบาท แม้ว่าไตรมาส 2/2564  ธุรกิจที่พึ่งพาการบริโภคในประเทศ อาจจะได้รับผลกระทบด้านยอดขายบางส่วน แต่ธุรกิจ OEM คาดว่าไม่ได้รับผลกระทบใดๆ  ส่วนแนวโน้มในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตกว่าช่วงครึ่งแรก จากการเติบโตของธุรกิจรับจ้างผลิตและส่งออกที่เติบโตต่อเนื่อง และเติบโตจากการบริโภคในประเทศ หลังจากเริ่มกลับมามีฟื้นตัวอีกครั้ง จากการกระจายวัคซีนและควบคุมโควิด-19 ได้ดีขึ้น อีกทั้งการควบคุมต้นทุนวัตถุดิบที่ดีขึ้น โดยการสั่งล่วงหน้าบางส่วน และใช้วัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

บริษัทได้ปรับแผนกลยุทธ์ เพื่อสร้างการเติบโต  ในธุรกิจรับจ้างผลิตและส่งออก บริษัทจะขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยมุ่งเน้นลูกค้าที่มีการเติบโตอยู่แล้ว หรือมีแนวโน้มจะเติบโตต่อ ส่วนในประเทศ บริษัทจะขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ โดยการกระจายความเสี่ยงไปยังหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบทางธุรกิจ รวมถึงควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงไป

“เราเชื่อว่าแผนการกระจายวัคซีนของภาครัฐ จะเป็นส่วนสำคัญให้ธุรกิจทุกภาคส่วนของเราในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตได้ดีกว่าครึ่งแรก ถ้าเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ และด้วยกลยุทธ์ของเรา จะทำให้ผลประกอบการของเราเข้าเป้าแน่นอน ซึ่งเราจะทำให้ดีขึ้น ให้เห็นกำไรแน่นอน เพื่อผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น และเราอาจจะพิจารณากลับไปจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นอีกครั้งด้วยในอนาตต” นายสุพจน์กล่าว

ขณะที่เงินลงทุนในปี 2564 บริษัทคาดว่าจะใช้เงินเพิ่มอีกประมาณ 30-40 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องฉีดพลาสติกอันใหม่ ใช้ทดแทนเครื่องเดิมบางส่วน ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น ส่วนช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ลงทุนเครื่องจักรไปแล้ว 48 ล้านบาท

ด้านผลประกอบการในไตรมาส 1/2564 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 330 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีรายได้อยู่ที่ 308 ล้านบาท ซึ่งบริษัทลดต้นทุนและใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีกำไรสุทธิ 10.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 190% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว