‘อนันดา’ เตรียมขายหุ้นกู้ 2 รุ่น ต้นส.ค.นี้ ชูดอกเบี้ย 4.40-5.30%

HoonSmart.com>> “อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์” เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 2 รุ่น อายุ 1 ปี 6 เดือน ผลตอบแทน 4.40-4.60% ต่อปี ส่วนอายุ 2 ปี 6 เดือน อยู่ที่ 5.20-5.30% ต่อปี อันดับเรทติ้ง BBB- เปิดขายผู้ลงทุนทั่วไปและสถาบันช่วงต้นเดือนส.ค.นี้ พร้อมคงเป้าหมายยอดโอนปีนี้ 1,6 หมื่นลานบาท ยอดขาย 1.85 หมื่นล้านบาท ลุยเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่า 2.44 หมื่นล้านบาท

เสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง

นายเสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นข้อมูลขอเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน จำนวน 2 รุ่น ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยเป็นหุ้นกู้อายุ 1 ปี 6 เดือน และอายุ 2 ปี 6 เดือน กำหนดผลตอบแทนเป็นช่วงอยู่ที่ 4.40-4.60% ต่อปี และ 5.20-5.30% ต่อปี ตามลำดับ จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน

หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2564 ที่ระดับ BBB- เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กร โดยมีแนวโน้ม “คงที่” (Stable) ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้แต่งตั้งสถาบันการเงิน 6 แห่งเป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้, และบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก โดยคาดว่าจะเสนอขายในช่วงต้นเดือนส.ค.นี้

“ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้อย่างสม่ำเสมอ และได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากผู้ลงทุนมั่นใจในการเติบโตและโอกาสในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดกับแนวรถไฟฟ้า ที่ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคและยังมีโอกาสในการเติบโตสูง ทำให้เรามั่นใจว่า การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเหมือนกับที่ผ่านมาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้ลงทุนที่แสวงหาโอกาสจากการลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งหุ้นกู้ฯ ทั้ง 2 รุ่นของบริษัทฯ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี” นายเสริมศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม โครงการบ้านจัดสรรและทาวน์เฮ้าส์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยโครงการคอนโดมิเนียมจะเน้นการเชื่อมโยงกับสถานีรถไฟฟ้า เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัย ส่วนโครงการบ้านจัดสรรและทาวน์เฮ้าส์ เน้นแนวคิดและการออกแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตอบโจทย์ความต้องการในแต่ละกลุ่มลูกค้า

สำหรับผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดโอนทั้งสิ้น 3,059 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนยอดโอนจากลูกค้าต่างประเทศใกล้เคียงกับปีก่อนที่ระดับ 21% ขณะที่ยอดขายรวมอยู่ที่ 3,979 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 3,393 ล้านบาท ถึง 17% จากโครงการพร้อมอยู่ แสดงให้เห็นถึงความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ยังมีต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ตาม

นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า แม้ว่า ปี 2564 จะเป็นปีที่ภาคธุรกิจต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อรองรับกับความเสี่ยงและปัจจัยที่ไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ปัจจัยการกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 จะเป็นความหวังให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว และส่งผลต่อกำลังซื้อของลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนที่มีความต้องการซื้อสูง ซึ่งจะทำให้แนวโน้มต่างๆ มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายยอดโอนไว้ที่ 16,008 ล้านบาท ขณะที่เป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 18,570 ล้านบาท และมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่อีก 5 แห่ง มูลค่าโครงการรวมกว่า 24,422 ล้านบาท บนทำเลที่มีศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังก้าวไปอีกขั้นด้วยการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกในประเทศไทยที่อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการซื้อเพิ่มมากขึ้น ด้วยการผนึกความร่วมมือกับ Bitkub เพื่อนำคริปโทเคอร์เรนซี่ มาใช้สำหรับการซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมของบริษัทฯ

“นอกจากความมุ่งมั่นที่จะทำให้ยอดขายและยอดโอนเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว เรายังคงเดินหน้ารักษาความแข็งแกร่งของโครงสร้างทางการเงิน โดย ณ สิ้นไตรมาสแรก บริษัทฯ ยังคงรักษาเงินสดรวมโครงการร่วมทุนเกินกว่า 10,000 ล้านบาท อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากสถาบันการเงินชั้นนำ และเรามีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ภายใต้เป้าหมายระยะยาวที่ 1:1 เพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทฯ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนที่สนใจจะลงทุนในหุ้นกู้ฯ ของบริษัทฯ”นายเสริมศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน จึงได้เพิ่มช่องทางการจองซื้อหุ้นกู้อนันดา เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา สามารถจองซื้อหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุด ผ่านระบบออนไลน์หรือแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ หรือการจองซื้อหุ้นกู้ผ่านทางโทรศัพท์บันทึกเสียงโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปจองซื้อหุ้นกู้ฯ ที่สาขา หรือหน่วยงานขายของผู้จัดการการจัดจำหน่ายดังกล่าว นักลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านจากผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 6 แห่งได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณ 100,000 บาท