TKN ลดความเสี่ยงราคาสาหร่ายเพิ่ม เร่งสั่งซื้อเก็บสต๊อกใช้ได้ถึงพ.ค.ปีหน้า ชี้ได้ราคาถูกกว่าปีที่แล้ว 10% มั่นใจปีนี้รายได้เข้าเป้าโต 15% กำไรเป็นเปอร์เซ็นต์เติบโต 2 หลัก
นายจิระพงษ์ สันติภิรมย์กูล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ด แอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายและรายได้ของบริษัทฯในช่วงไตรมาส 3 จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ที่มีรายได้ 1,346 ล้านบาท และทั้งปีคาดว่ายอดขายจะเติบโตตามเป้าหมายที่ระดับ 15% เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 5,283 ล้านบาท และกำไรที่เป็นเปอร์เซ็นต์เติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก ขณะที่ครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขาย 2,682 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน
“ครึ่งปีแรกผู้บริหารค่อนข้างพอใจกับยอดขายที่เติบโตตามเป้า โดยเฉพาะยอดขายในประเทศเดือนมิ.ย.ที่เติบโตนิวไฮ ส่วนครึ่งปีหลังเชื่อมั่นว่ายอดขายจะเติบโต 15-18% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีการออกสินค้าใหม่และเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานใหม่ ส่วนกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิที่เป็นเปอร์เซ็นต์จะเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก โดยเฉพาะไตรมาส 3 จะมีการนำสาหร่ายล็อตใหม่ที่ต้นทุนต่ำกว่าล็อตที่แล้ว 10% มาใช้ในการผลิตเต็มไตรมาส ซึ่งทำให้กำไรขั้นต้นของเราดีขึ้น”นายจิระพงษ์กล่าว
นายจิระพงษ์ ยังกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเพิ่มปริมาณการเก็บสต๊อกวัถุดิบที่เป็นสาหร่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อลดความเสี่ยงจากราคาสาหร่ายในฤดูใหม่ที่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ โดยสต๊อกสาหร่ายที่บริษัทเก็บไว้คิดเป็น 75% ของสต๊อกวัตถุดิบทั้งหมด สามารถใช้ผลิตสินค้าได้ถึงเดือน พ.ค.ปีหน้า และมีต้นทุนโดยรวมต่ำกว่าราคาสาหร่ายเมื่อปีที่แล้ว 10% ขณะที่สาหร่ายดังกล่าวจะส่งเข้ามาเก็บในประเทศไทย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายการเก็บต่ำกว่าค่าเก็บในเกาหลี
นายจิระพงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมียอดขายในต่างประเทศ เช่น จีน และสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 60% ของยอดขายรวม ที่เหลืออีก 40% เป็นสัดส่วนยอดขายในประเทศ โดยในครึ่งหลังปีนี้ยอดขายสินค้าในจีนน่าจะเติบโตต่อเนื่อง และดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายเพิ่มยอดขายเป็น 1 หมื่นล้านบาทในปี 2567 เป็นรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสาหร่าย 85% หรือคิดเป็น 8,500 ล้านบาท ส่วนรายได้ที่เหลืออีก 1,500 ล้านบาท จะมาจากสินค้าอื่นๆ ซึ่งเป็นตามนโยบายของบริษัททในการเป็น Snack global brand