JR-RT-SO-NCAP-NRF-SA รุ่ง ติดฟุตซี่โลก เตะตาต่างชาติ

HoonSmart.com>>หุ้นบริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ (JR) ติดเครื่องวิ่งแรงอย่างชัดเจนตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากบริษัทขึ้นทำเนียบ FTSE All World Index กลุ่ม Micro Cap และมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังมีบริษัทของประเทศไทยอีก 5 แห่งที่ติดอันดับในรอบนี้ด้วย คือ บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF) บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง (RT) บริษัทสยามราชธานี (SO) บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล (NCAP) และ บริษัท ไซมิส แอสเสท (SA) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้หลังจากราคาปิดของวันที่ 18 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป

หุ้นเหล่านี้จะอยู่ในจอเรดาร์ของนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น

“จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ กล่าวว่า การที่หุ้น JR ถูกดึงเข้าคำนวณใน FTSE Micro Cap ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงหุ้นที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายและมั่นใจว่าหลังการเข้าคำนวณดัชนีดังกล่าว จะทำให้หุ้น JR อยู่ในโฟกัสของนักลงทุนสถาบันและกองทุนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีโอกาสที่จะเพิ่มน้ำหนักลงทุน เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ฐานะทางการเงินมีความมั่นคง และมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว

ในช่วงปลายปีนี้บริษัทยังมีมีโอกาสได้งานโครงการใหญ่ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู เฟส 2 มูลค่าไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้งานในมือพุ่งแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ธุรกิจในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างสถิติสูงสุดใหม่(นิวไฮ)

6 บจ.ของไทยที่ติดอันดับกลุ่ม FTSE All World Index กลุ่ม Micro Cap ครั้งนี้ด้วยเหตุผลของการเป็นหุ้น IPO พร้อมบริษัททั่วโลกทั้งสหรัฐอเมริกา,แคนาดา,สหราชอาณาจักร, บราซิล, จีน, ออสเตรเลีย, อินเดีย, เกาหลี, ฮ่องกง, สวีเดน,อิสราเอล, สเปน,นอร์เวย์ ,ตุรกีและโปแลนด์ เป็นต้น

ขณะเดียวกันมีบริษัทถึง 22 แห่ง ถูกถอดออกจากการคำนวณในกลุ่ม Micro Cap  เช่น บริษัทออสเตรเลีย 2 แห่ง  คือHomeCo Daily Needs REIT มีการ Spinoff แล้วได้ขึ้นไปอยู่ในบริษัทเล็ก และบริษัท Caspin Resources ที่มีการ Spinoff แล้วตกชั้นเทียบมาร์เก็ตแคป รวมถึงบริษัทเกาหลีถึง 16 แห่ง ถูกถอดออก เพราะ Warning List Deletion

สำหรับบริษัทที่มีขนาดที่ใหญ่กว่า Micro Cap ทางด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series ในส่วน FTSE SET Large Cap Index มีเข้าใหม่ 2 บริษัทคือ บัตรกรุงไทย (KTC) และบริษัทปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR)

ส่วน FTSE SET Mid Cap Index มีถึง 13 บริษัท อาทิ บริษัทสตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) บริษัทเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) หรือ KEX และบริษัทอาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF)  ซึ่งจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันไทยและต่างประเทศมากขึ้นเช่นเดียวกัน นักลงทุนไทยควรถือโอกาสในการสะสมหุ้นที่ผ่านการคัดเลือกระดับโลกเข้าพอร์ตไว้บ้าง เหมาะสำหรับการถือลงทุนระยะยาว จากแนวโน้มการเติบโตที่ดีและแต่ละบริษัทมีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอด้วย