HoonSmart.com>> “อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา” ผู้ถือหุ้นใหญ่เจมาร์ท ขายบิ๊กล็อต 19.1 ล้านหุ้น มูลค่า 625.5 ล้านบาท ให้กองทุนสถาบันต่างประเทศ หลังโรดโชว์ช่วงที่ผ่านมาได้รับการตอบรับล้นหลาม เชื่อมั่นวิสัยทัศน์ ทิศทางดำเนินธุรกิจหลังหุ้น JMART ติดดัชนี FTSE SET Index Series หนุนสถาบันต่างชาติหลายรายสนใจ สะท้อนความมั่นใจอีกขั้นหนึ่งหลังพันธมิตรรายใหญ่จากเกาหลีใต้เข้ามาร่วมทุน
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท (JMART) ในฐานะบริษัทโฮลดิ้งที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Investment Holding Company (IHC) เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเดินสายให้ข้อมูล Roadshow กับกองทุนสถาบันจากต่างประเทศ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากใน Business Model ของกลุ่มบริษัท จึงได้ทำรายการขายหุ้นบนกระดานรายใหญ่ (Big Lot) จำนวน 19.1 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นประมาณ 1.87% ให้แก่กองทุนชั้นนำต่างชาติ รวมมูลค่า 625.5 ล้านบาท โดยภายหลังจากการขายหุ้นดังกล่าว กลุ่มสุขุมวิทยายังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กว่า 46.6%
การเข้ามาถือหุ้นของกองทุนจากต่างประเทศครั้งนี้ใช้วิธี Book Building ให้กับกลุ่มผู้ลงทุนประเภทสถาบัน ซึ่งได้รับได้รับความสนใจเข้ามาค่อนข้างดี แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในแผนการดำเนินงาน และ Business Model ของกลุ่มเจมาร์ทที่มี Synergy Ecosystem ทั้งทางด้านการเงิน และค้าปลีก โดยมีการใช้เทคโนโลยี เช่น Block chain และ Fintech เข้ามาใช้ในการดำเนินงานของบริษัทอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้มั่นใจได้ว่าจะเป็นบริษัทที่ไม่ถูก Technology Disruption และมีการเติบโตที่ยั่งยืน เป็น Growth stock ที่จะสร้างการเติบโตแบบ J-Curve ด้วย Ecosystem ของภายในกลุ่มบริษัทเอง
ทั้งนี้ การเข้ามาลงทุนของกองทุนสถาบันต่างชาติ ภายหลังจากการเข้ามาลงทุนเพื่อร่วมทุนทำธุรกิจของบริษัทข้ามชาติ เช่น KB Kookmin Card จากเกาหลีใต้ และ TIS Inc. จากญี่ปุ่น ยิ่งตอกย้ำว่า พลังของ Ecosystem ในกลุ่ม JMART นั้นจะสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
สำหรับการคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะยังคงมีทิศทางของธุรกิจที่เติบโตได้ตามเป้าหมาย ด้วยมีปัจจัยผลักดันหลัก (Key Drivers) คือ ผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยใน ธุรกิจบริหารหนี้ของ JMT ยังคงรักษาระดับการเติบโตได้ตามเป้าหมายทั้งปี และคาดว่าเติบโตได้ตามเป้าหมาย อีกทั้งตลาดหนี้ด้อยคุณภาพเปิดโอกาสให้สะสมหนี้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นฐานกำไรของกลุ่มได้อย่างแข็งแรง
นอกจากนี้ สำหรับธุรกิจจำหน่ายมือถือ เจมาร์ท โมบาย ยังคงเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยคาดว่าเฉพาะในครึ่งปีแรกนั้นผลการดำเนินงานจะสามารถอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับผลการดำเนินงานทั้งปี 2563 ที่ผ่านมา อีกทั้งในครึ่งปีหลัง การขยายพอร์ตรถทำเงินของ SINGER จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจสินเชื่อของ KB J Capital ขยายการปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ J นั้นจะสามารถเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ “Jas Green Village คู้บอน” ได้ตามแผนงานที่วางไว้
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ JMART เป็นหลักทรัพย์ใหม่ที่ถูกนำเข้าร่วมคำนวณดัชนี FTSE SET Mid Cap Index สะท้อนเป็นหุ้นที่มีคุณสมบัติโดดเด่นด้วยมาตรฐานการคำนวณดัชนีในระดับสากล มีผลวันที่ 21 มิ.ย.2564 เป็นต้นไป