โดย…รัสปูติน
www.HoonSmart.com “เสนอความจริง ทุกการลงทุน” ปีที่ 1 วันที่ 8 ก.ค.2561
* ข้อหาพาคนไปตาย เคยพาคนบางคนเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีแต่ฝีปากแต่ผลงานกากสุดมาแล้ว และยังทำเอาคนบางคนตกสวรรค์แห่งอำนาจด้วยเช่นกัน วานซืนนี้ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน แถลงผลการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน 27 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์จำนวน 20 บริษัท บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจำนวน 5 บริษัท และธุรกิจโกลด์ ฟิวส์เจอร์ส 2 บริษัท ระบุว่า “โลกยังสวย” ร้อยละ 48.15 มองว่าดัชนีราคาหุ้นไทยในระยะสั้น เป็นไปในทิศทางบวก ร้อยละ 44.44 มีมุมมอง Sideways หรือไม่เปลี่ยนแปลงไปมาก และมีเพียงร้อยละ 7.41 มองว่าตลาดจะเปลี่ยนแปลงในทิศทางลบ ทั้งนี้ ดัชนีราคาหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนสิงหาคมจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1,720 จุด ถือว่า ปัจจัยที่มีผลต่อดัชนีมากสุดคือ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน รองลงมาคือ เรื่องปัจจัยสงครามการค้าโลก และ Fund Flow ของต่างชาติและกองทุน
* ตูข้าตั้งคำถามว่า วิเคราะห์กันด้วยมุมมองอยางนี้ ลืมเรื่องร้ายๆ เช่นวานนี้กรณีที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเตรียมลงนามคว่ำบาตรอิหร่าน ต่อภาคการเงินและอุตสาหกรรม ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้วันนี้ และถือเป็นมาตรการรอบแรก ก่อนที่สหรัฐจะออกมาตรการคว่ำบาตรรอบ 2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งจะพุ่งเป้าไปยังการทำธุรกรรมของธนาคารกลาง การส่งออกน้ำมัน และการขนส่งสินค้าทางเรือของอิหร่าน …เป็นอันตรายยิ่ง เป้นเกม do or die ที่มีผลข้างเคียงสูงมาก
* ต่างชาติซื้อต่อเนื่องมาเกือบ 10 วัน แต่กองทุนก็ขยันตระเบ็ด…ภาษาเพื่อนบ้านผู้ดีแปดสาแหรกของตูข้า..ดูคล้ายกับรอบนี้เป็นสงครามส่วนตัวระหว่างต่างชาติกับกองทุน ทั้งที่ในความเป็นจริงอาจจะเป็นการโยนออร์เดอร์กันธรรมดาก็ได้ ในภาวะไซด์เวย์อย่างนี้
* หากมองจากมุมผลประกอบการล้วนๆ การทยอยออกรายงานตัวเลขไตรมาสสองของบจ. ทั้งหลายเริ่มโผล่มาเรื่อย รายที่เสร็จก่อนก็ไม่จำเป็นเสมอไปต้องมีกำไรดีกว่าคาด บางรายตามคาด บางรายเลวกว่าคาด ว่ากันตามเนื้อผ้า แต่รายเล็กๆ วานนี้ ที่ออกมาแล้ว ก็คละกันไป อย่าง PLAT รายงานดีใกล้ตลาดคาด ยังมีสตอรี่ใหม่ที่ยังไม่มา ในขณะที่ GLOBAL ดีกว่าคาด Surprise ตลาด เพราะระยะหลังมีความหลากหลายในร้านค้าดูจะเหนือกว่าคู่แข่งสำคัญอย่าง HMPRO หรือ ไทวัสดุหลายช่วงตัว ในขณะที่หุ้นยักษ์เครือ PTT อย่าง TOP เชียร์กันมากเกินไปหน่อย กำไรปกติต่ำกว่าคาดมาก นักวิเคราะห์ถึงขั้นเบือนหน้าหนี
* TOP แม้จะกำไรไตรมาสสองโดดเด่น เพิ่มจากปีก่อนถึง 47% มาที่ 4.79 พันล้านบาท แต่ตัวเลขครึ่งแรกปีไม่เอาไหน เพราะงวด 6 เดือนมีกำไร 1.04 หมื่นล้านบาท เทียบปีก่อนอยู่ที่ 1.03 หมื่นล้านบาท ถือว่าสอบไม่ผ่าน เพราะกำไรพิเศษช่วยเอาไว้เท่านั้น
* ส่วน PTTEP แม้งบยังไม่ออก แต่คาดกำไรสุทธิทั้งไตรมาสสองและสามสวยอะร้าอร่ามแน่นอนทั้งสต๊อก ราคาน้ำมันโลก และกำไรพิเศษ จากทั้งอัตราแลกเปลี่ยน กับขายทรัพยืสินที่มีอนาคตหม่นมัวทิ้งไปฉับไว ไม่รอให้เน่าคางบการเงิน แต่ราคาแนะนำ 140.00 บาท ตูข้าว่ามันจะมากไปหน่อย
* MVP หุ้นเทรดวันแรก แหวกวงการพอสมควร เพราะจำนวนหุ้นน้อย และฝีมืออันเดอร์ไรเตอร์อย่างโนมูระ อยากโชว์ฝีมือนานๆ ที กระแสแรงอย่างนี้ บิ๊กป้อม สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม แห่ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ยิ้มแก้มปริ ไม่เหมือน 2 รายก่อนหน้า ที่ฟอร์มน่าผิดหวัง
* ตูข้าให้รู้สึกอนาถใจแท้ ที่แม้จะมีสื่อเชียร์จนหน้ามืดมัวว่า JASIF ประกาศงบไตรมาสสองกำไรโต 55% หลังบุ๊กกำไรมูลค่าเส้นใยแก้วนำแสง 100 ล้านบาท ทั้งที่ครึ่งแรกปี กำไรลดฮวบ กว่า 40% …คนถือหรือเล่นหุ้นเสี่ยงกว่าเดินริมเหวอย่างนี้ คงไม่รู้จักเบนจามิน แกรห์มเป็นแน่แท้ รู้จักแต่เสี่ยพิชญ์ จอมอีโก้เท่านั้น น่าเวทนานัก..กลัวจะพากันไปตายหมู่เสียมากกว่า